วันอาทิตย์ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

Race 7 ครึ่งมาราธอนแรก ในชีวิต

Race 7 สภาวัฒนธรรมบางแค มินิ ฮาล์ฟมาราธอน



งานในครั้งนี้ ไม่มีอยู่ในหัวสมองเลยกับการวิ่งระยะครึ่งมาราธอน  จึงได้สมัครผ่านประธานไปในระยะมินิ เหมือนเช่นเคย  แต่ วันพฤหัสก่อนการวิ่ง ได้มีหลายท่านที่สมัครระยะครึ่งมาราธอนไว้ แต่ไม่สามารถไปร่วมงานได้ ท่านประธาน จึงมากระตุ้นให้ไปวิ่งในระยะนั้นแทน และก็ให้กำลังใจตลอดว่าสามารถทำได้ จึงทำให้ งานในครั้งนี้เป็นงานประเดิม การวิ่งระยะไกลที่สุดอีกครั้งในชีวิตให้เกิดขึ้น

เมื่อมาถึงวันจริงท่านประธานให้คำแนะนำ ว่าให้วิ่งเกาะกันไปเป็นกลุ่ม จะได้ช่วยแนะนำ ซึ่งก็ตกลงตามนั้น โดยในกลุ่มมีทั้งหมด 6 คน ที่ออกตัวไปพร้อมกัน โดย มีเฮียสุเทพ เฮียกวง เฮียเอก เฮียหน่อง และอีกคนไม่รู้จักชื่อ รวมทั้งตัวผม วิ่งออกไปพร้อมๆ กัน จากเดอะมอลล์บางแค มุ่งหน้าสู่ถนนเพชรเกษม เป็นการวิ่งในจังหวะที่ช้ากว่าปกติมาก และเมื่อมาถึงแยกพุทธมณฑลสาย 1 กลุ่มเริ่มแตก ออกเป็น 2 กลุ่ม  โดยกลุ่มที่เร็วแยกออกไปคงเหลือ แต่ ผม เฮียเทพ และ เฮียเอก สามคนวิ่งประคองกันไป

จนกระทั่งได้ระยะทางที่เห็นจากป้าย ที่ กม 8  มีฝรั่งจาก ชมรมสวนธน วิ่งมาด้วย ด้วยอัตราหายใจที่เหนื่อยหอบมาก และวิ่งช้า ซึ่งก็ได้คุยกันไปสักระยะ ก็เริ่มรู้สึกหงุดหงิดตัวเองที่วิ่งช้าไป จึงขออนุญาติเฮียๆ วิ่งหนีออกมา ในช่วงก่อนวิ่งเข้าถนนสายใน ซึ่งถนนเส้นนี้ ทำให้ท้อใจมากไปหลายครั้ง จากที่มีเรียวเเรงเหลือเฟือ กลับมาเจอ สะพานในถนนนี้ ลูกแล้ว ลูกเล่า ทำให้เกิดอาการตึงหน้าขามาก จนแทบอยากเดิน และ ต้องเดินในที่สุด

ภาพจากพี่ตุ้ม

แต่จากประสบการณ์งานวิ่งหลายงานที่ผ่านมา ทำให้เราเริ่มรู้โฟกัส ว่าจะต้องมีช่างภาพ มาถ่ายภาพ ก็อาศัย จังหวะนั้น แสร้ง ทำเป็นว่าวิ่ง เพื่อไม่ให้น่าเกลียดเกินไป

ซึ่งมีช่างภาพคนหนึ่ง ชอบถ่ายภาพในช่วงที่เป็นเนินมาก ภาพส่วนใหญ่ออกมาแล้วดูดีมาก ซึ่งเหล่านักวิ่งหน้าใหม่ อย่างเราต้องหมั่นสังเกตุอยู่ตลอด ซึ่งถ้าไม่สังเกต คุณจะได้ภาพแบบด้านล่างนี้

เหนื่อยมาก

สนามนี้เป็นสนามแรกที่เรามีความภูมิใจอีกสนามหนึ่งที่สามารถวิ่งได้ครบระยะฮาล์ฟ และเป็นการวิ่งมากที่สุดในชีิวิต  ซึ่งมาทราบระยะที่หลังว่าไม่ครบระยะฮาล์ฟ เป็นเรื่องที่น่าเสียดายมาก

และจากสนามนี้ หลังจากดูรูปถ่ายตัวเองมาหลายครั้ง ทำให้เกิดแรงบันดาลใจว่า ในอนาคตอันใกล้ เราจะถอดเฝือก อ่อนที่ขา ออกเพื่อทดสอบร่างกายตัวเองสักครั้ง ว่าเราทำได้หรือไม่

สถิติสนาม ระยะ 19.63 กม  ใช้เวลา  2:12:26



ไช้
21 กุมภาพันธ์ 2010

วันอาทิตย์ที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

Race 6 งานวิ่งในรั้วทหาร

Race 6 ดอนบอสโก มินิมาราธอน ครั้งที่ 8  สวนหลวง ร.9

งานนี้เป็นงานที่มาโดยไม่ได้ตั้งใจ เพราะในตอนแรกนัดกับท่านประธานไปวิ่งที่ต่างจังหวัด แล้วเกิดไม่มึใครไปเลยต้องเปลี่ยนแผนวิ่งในกรุงแทน  โดยงานในครั้งนี้ได้รับความอนุเคราะห์จากท่านประธาน นำรถตู้ไปส่งถึงที่งาน

งานในครั้งนี้ ท่ามกลางบรรยากาศทางการเมืองที่ขรุกรุ่น  ทำให้งานวิ่งครั้งนี้เหมือนเป็นสนามรบ มีบรรดาเหล่าเสื้อทั้งหลาย มาหวังเข้ามาทำลายงาน  ซึ่งทำให้ทางสวนต้องปิดประตูเข้าออกทุกทางเพื่อความปลอดภัย ซึ่งส่งผลให้นักวิ่งอีกหลายคนไม่สามารถเข้ามาสู่สนามได้

ทราบข่าวว่าทุกครั้งที่ ดอนบอสโก จัดงาน  ประธานก็ยังเป็นคนเดิมเสมอตลอด 8 ครั้งที่ผ่านมา

สนามสวนหลวง ร9 นี่เป็นครั้งแรกที่ได้มาวิ่ง แต่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มาเยือน เพราะเคยมาเยือนที่นี่บ่อยครั้งแล้ว

แต่ไม่รู้เส้นทางวิ่งภายในเป็นอย่างไร ซึ่งดูจากการฝึกซ้อมที่ผ่านมาทำให้มั่นใจว่า วันนี้ สถิติ จะต้องดีขึ้น และต่ำกว่า 1 ชม 5 นาที แน่นอน

สำหรับเรื่องสถิตินี้ ถือเป็นเรื่องที่สำคัญ กับ ระยะจริงในสนามที่จะต้องแจ้งให้นักวิ่งทราบ

เพราะการแจ้งระยะที่ไม่ถูกต้อง อาจจะทำให้นักวิ่งมีความเข้าใจผิด ในศักยภาพของตนในครั้งนั้นๆ ได้ ซึ่ง ณ ตอนนั้นเทคโนโลยี ที่เ้ข้ามายังมีอยู่อย่างจำกัด และราคาแพง ซึ่งอาจจะต้องเชื่อ สนามทุกครั้งในการวัดผลและประเมินตนเอง



อย่างที่ผ่านมาส่วนใหญ่งานที่ได้วิ่ง ก็มักมีระยะทางที่แตกต่างกันไป บางที่ 10.5 บางที่ 11 หรือต่างกันไปตามสภาพภูมิประเทศ  แต่สิ่งที่อยากฝากบอกไปยังผู้จัดงาน ว่า ควรแจ้งระยะทางที่แท้จริง มิใช่ เหมาตัวเลขกันไป

สำหรับสถิติวันนี้คือ 0:57:55   เย้ๆๆๆๆๆ ระยะทาง 10 กม เป๊ะ






ไช้
วันวาเลนไทน์ 2010

วันอาทิตย์ที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

Race 5 Go inter ครั้งแรก กับงานออกวิ่งต่างจังหวัด

Race 5 ดรุณา นารี มินิ-ฮาล์ฟ


หลังจากสะสมประสบการณ์มาได้พอสมควร กับนักวิ่งหน้าใหม่อย่างเรา  มาครั้งนี้ คิดการณ์ใหญ่ในการมุ่งสู่ถนนนักวิ่ง ต่างจังหวัด หลังจากได้รับคำเชื้อเชิญจากพี่ๆ ในชมรม ว่า งานดรุณา นารี สนามสวย อากาศดี เหมาะกับการวิ่งมาก  เลยตัดสินใจรับคำเชิญ โดยมีเฮียเอก ให้การอนุเคราะห์ไปรับถึงที่หมู่บ้าน

เฮียเอก เป็นนักวิ่งที่เิริ่มมาออกกำลังกายได้ไม่นาน หลังจากมีปัญหาเรื่องสุขภาพ ล้มวูบ ไปหลายครั้ง หมอจึงแนะนำให้มาออกกำลังกาย ซึ่งก็ทำให้สุขภาพของเฮียดีขึ้นเรื่อยๆ  เมื่องานจอมบึงที่ผ่านมา ซึ่งผมไม่ได้ไปด้วย เฮียเอกคนนี้ได้รับการกล่าวขานมากในเรื่องของการขับรถที่ดุดัน จนพี่ๆ หลายคนตั้งปณิธานไว้ว่า จะไม่ขึ้นรถเฮียเค้าเด็ดขาด

ซึ่งเราก็ได้เข้ารับการทดสอบแล้วในงานครั้งนี้  เวลาตี สองครึ่ง คือเวลานัดหมาย เพราะเราทั้งคู่ ไม่รู้จักสถานที่จัดงาน จึงเผื่อเวลาการเดินทางไว้

ซึ่งก็สามารถไปถึงสถานที่จัดงานตั้งแต่ตีสี่ กว่าๆ  ระหว่างทางมีอาการลังเลเรื่องเส้นทางบ้างเล็กน้อย แต่ก็ผ่านไปด้วยดี

สำหรับเป้าหมายวันนี้ อยู่ที่เวลาที่ดีขึ้นกว่าทุกๆ สนาม ส่วนเป้าหมายในใจวันนี้ทำไม่ได้เพราะคู่แข่งหนีไปลงวิ่งระยะครึ่งมาราธอนแล้ว

ซึ่งเส้นทางการวิ่งในเบื้องต้นก็สมกับคำเล่าลือ ว่าเส้นทางดีอากาศดี ระหว่างการวิ่งไม่รู้สึกเหนื่อยเท่าไหร่นัก วิ่งตามเส้นทางมาเรื่อย สวนกับ นักวิ่งระยะฮาล์ฟ บ้างป่ะปราย จนวิ่งมาถึงจุดปล่อยตัว ปรากฏว่า ทางทีมจัดงานให้วิ่งเลยไปข้ามสะพาน แล้วไปอ้อมหมู่บ้าน แล้ววกกลับมาเข้าเส้นชัย

จุดนี้ถือเป็นจุดบกพร่องของงานในครั้งนี้ เพราะว่าหลังจากนักวิ่งเห็นเส้นชัยแล้วส่วนใหญ่ จะวิ่งใส่กันหมดแม๊กซ์ แล้วพอไม่ได้เข้าเส้น ก็เซ็งไม่อยากวิ่งกันต่ออีกหลายคน

ซึ่งแว่วๆ ว่ามีการเปลี่ยนเส้นทางทีหลัง เนื่องจากทางคณะจัดงาน ต้องการให้ไปวิ่งผ่านตลาดบางนกแขวก  และมีการประกาศบนเวทีแล้ว  (ซึ่งเราไม่ได้ฟังเอง)

งานนี้บรรยากาศหลังเส้น มีกล้วยแขวนไว้เป็นเครือๆ ไว้บริการนักวิ่ง มีการแจกของชำร่วย เป็นนำ้ตาลปึก และ น้ำปลา ของดีของที่นี่


รู้สึกประทับใจกับงานวิ่งต่างจังหวัด และที่นี่มาก และคิดว่าตราบใดที่ยังเป็นนักวิ่ง จะพยายามมาที่นี่ให้ได้ตลอด


งานนี้เป็นงานแรกที่เรามีรูปถ่ายเป็นตัวเป็นตน เต็มตัวซะที
ขอบคุณ พี่ตุ้ม แพทรันนิ่ง



ไช้
7 กุมภาพันธ์ 2010