วันอาทิตย์ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2554

Race 78 ปิดจ้อบปี 54 กับฝันร้ายที่สนามดูดวิญญาณ

Race 78 ฮาลพ์มาราธอน สถานีสูบน้ำชลหารพิจิตร


ฝนฟ้า เป็นอะไรหนอช่วงนี้ จู่ๆ เช้้าวันนี้ก็เกิดอากาศเย็นขึ้นมา โดยไม่ได้นัดหมาย ไม่เหมือนกับการนัดหมายไปทดสอบสภาพความพร้อมของนักวิ่งกลุ่มที่มาซ้อมกับ อ.สถาวร

วันนี้ ตั้งใจมาวิ่ง กับ หนุ่ยสองคน โดย หลานอีกสองคน มาสังเกตุการ์ณ แต่จากสภาวะอากาศที่จู่ก็เย็นลงมาก  ทำให้ น้องชายเป็นห่วงหลานว่า ถ้าไม่ได้วิ่งก็ไม่รู้จะไปอยู่ตรงไหน เพราะหลบตรงไหนก็หนาว เลยตัดสินใจไม่สมัครและลงวิ่ง คงเหลือแต่ตัวข้าพเจ้าเพียงคนเดียว ที่ยังมุ่งมั่นที่จะเอาคืน สนามนี้ให้ได้ ส่วนทั้งน้องทั้งหลานหนีไปหลบนอนในรถ เพื่อหลบลมหนาว

ระยะทางคราก่อนที่วิ่งจำได้ดี 23 กม คราวนี้หลังว่าจะทำให้ดีกว่าเดิม  ซึ่งงานนี้ก็เป็นอีกงานที่การวอร์มนั้นวอร์มถึงจุด คงเป็นเพราะอากาศที่เย็น จึงทำให้จำเป็นต้องทำให้ร่างกายร้อนที่สุด ได้น้องม็อค มาช่วยลาก ช่วยวิ่งเป็นเพื่อนในตอนวอร์ม หลังจากวอร์มก็มาทำการยืดเหยียด  ตามขั้นตอน อาทิตย์นี้ดีขึ้นหน่อยหลังจากที่เจ็บเมื่ออาทิตย์ก่อน แต่อาการไม่หนักมาก  และมีโอกาสหนีงานออกมาซ้อมได้วันสองวัน ทำให้รู้สึกดีขึ้น   วันนี้ปล่อยตัวช้ากว่ากำหนด มาจากสองสาเหตุ คือ 1 ไม่มีนักวิ่งมาวิ่งเท่าใดนัก และ เหมือนกับทางงานก็ไม่พร้อม เพิ่งจะมาจัดสถานที่เอาตอนเช้า  และ 2 เส้นทางที่มืด เพื่อความปลอดภัยจึงขอเลื่อนเวลา ให้พอมีแสงก่อนจึงปล่อยตัว

อากาศที่เย็น ลมที่แรงในตอนปล่อยตัวทำให้การวิ่งในส่วนขาไปเป็นไปอย่างสบาย

10 กม แรกขาไป ยิ่งวิ่งยิ่งมันส์ เพราะอากาศเย็น และ แรงลมที่ส่งให้ไปข้างหน้า ระหว่างวิ่งคิดในใจเวลาดีวุ้ย  แต่หาได้คำนวณขากลับ ว่าจะเจอกับอะไร จนมาเอะใจ เมื่อเจอกับพี่ที่รู้จักคนนึง ได้ตะโกนบอกตอนสวนกัน ว่าวิ่งไม่ออก ลมแรงมันต้านกลับหมดเลย  ถึงว่าตอนแรกนำห่างๆ ทำไมเราถึงไล่มาได้

จากที่ไม่เคยวิ่ง pace 5:00 ต้นๆ ในการลงวิ่งฮาล์ฟ มาเลยในชีิวิต เพราะปกติจะวิ่งอยู่ที่ 6 นาที ด้วยความกลัว กลับทำได้ดีในสนามนี้ และช่วง กมที่ 10-11 กดลงไปได้ต่ำกว่า 5 นาทีเสียอีก

แต่กำไรที่ได้รับมา ก็เริ่มหดและลดลง เมื่อผ่านจุดกลับตัว  เสียงลมผ่านเข้าหูแรงมาก หน้าชา เพราะอากาศเย็นอยู่แล้วยิ่งรู้สึกหนักยิ่งขึ้น


ดู ลม สิครับ


ยิ่งวิ่งยิ่งไม่ไป หลายคนออกอาการหงุดหงิดมาก แต่ทำไงได้มันคือธรรมชาติล้วนๆ

เป้าหมายที่ล็อกไว้ในตอนนี้ คิดว่าสามารถประคองให้จบระยะไม่ให้ช้ำแบบครั้งก่อนได้ แต่ตอนนี้สิ่งที่ต้องการทำมากกว่านั้นคือการล้างสถิติ ฮาล์ฟที่ค้างอยู่ที่ 2 ชม มานานแล้ว

ความพยายามในการวิ่งที่ต้องใส่ลงไปมากขึ้น ก็แทบหมดลงที่ กมที่ 18  แต่เหมือนฟ้าประทาน  น้องม็อค หลังจากวิ่งมินิ เรียบร้อยแล้ว ได้วิ่งย้อนกลับมาช่วยลากไปให้ ทั้งตอนขึ้นสะพาน ทั้งกระตุ้นให้เร่ง ทั้งให้กำลังใจ จนกระทั่งผมไม่ไหวจริงๆ จึงบอกว่าขอแค่นี้พอ เพราะจะอ๊วกแล้ว จึงผ่อนลง เมื่อไกล้เส้นชัยและผ่านระยะครึ่งมาราธอน จากเสียงนาฬิกา  จากนั้นเมื่อถึงใกล้จุด ที่ช่างภาพ รอถ่ายรูป น้องม็อค จึงขอตัวแยกออกมา เพื่อให้ข้าพเจ้าอยู่ในเฟรมคนเดียว

งานนี้ถ้าไม่ได้น้องม็อค อาจถอดใจไปแล้วก็ได้

่วิ่งจบสะใจในการล้างอดีต ของ บรรยากาศ มาคุ ที่นี่ได้สำเร็จ กับ New PB Half Marathon  1:52:55s

ระยะทาง  21.59  ใช้เวลา  1:55:54

ไช้
25 ธันวาคม 2011

Special Thanks  to  น้องม็อค ที่มาช่วยลาก
                         to อากาศที่ยอดเยี่ยม
                         to อดีตอันเลวร้าย ที่กระตุ้นให้ผ่านมันไป

ปิดฉาก ชีวิตนักวิ่งในปี 2011  และ รอคอยการวิ่ง ปี 2012 ต่อไป  เจอกันแน่ จอมบึง





วันอาทิตย์ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2554

Race 77 เป๋ห่าว คืนสนาม

Race 77  บางหญ้าแพรก มินิมาราธอน ครั้งที่ 1



งานในครั้งนี้ได้รับการประสานงานจากคุณนิพนธ์ ในการจัดการแข่งขันขึ้นมา ทำให้มีโอกาสได้วิ่งฟรีอีกแล้ว

และก็เป็นอีกอาทิตย์ที่ไม่มีการซ้อมเกิดขึ้นในระหว่างสัปดาห์ จนกระทั่งจะได้มาซ้อมกับ อาจารย์เช้าวันเสาร์ แต่กลับตื่นสายตื่นมาก็ 6:30 แล้ว จึงตัดสินใจไม่ไปและซ้อมเองอยู่ที่บ้าน ระหว่างการซ้อมก็วิ่งปกติไม่เร็วมากในช่วงแรก และเริ่มเร่งความเร็วขึ้นเพื่อให้เหนื่อย แต่ปรากฏว่าระหว่างสปีด นั้น มีรถขับข้ามถนนมาตัดหน้า ทำให้เราต้องเบรคและเบี่ยงตัวหนี จนทำให้เข่าข้างเดิมเจ็บจนได้

ซึ่งงานบางหญ้าแพรก ได้สมัครวิ่งไป 4 คน ทั้งบ้าน ด้วยที่รับปากไว้แล้ว จึงต้องมางานตามปกติ

โดยข้าพเจ้าและน้องชาย วิ่งมินิ  หลาน ทั้งคู่ ลงประเภทเดิน  โดยงานนี้สามารถสบายใจได้เพราะฝากคุณน้อง ขวัญใจบอยให้ช่วยดูแลหลานให้

วันนี้ ยังไม่ลงสนามก็รู้แล้วว่าแพ้

ไช้ 7 vs บอย 13

เขียนไว้เลย ไม่ใช่ว่าไม่สู้  แต่มันสู้ไม่ได้จริงๆ

เมื่อเริ่มปล่อยตัวข้าพเจ้าก็ยังอยากแข่งอย่างเต็มที่เช่นเคย จึงนำสายรัดเข่ามารัดไว้ เพื่อให้สามารถวิ่งได้เป็นปกติ



5 กม วิ่งได้ดังใจ สามารถบี้ ประกบหลายๆ คนในเส้นทางไปได้ ทั้งแซงทั้งฉีกคนอื่นอย่างสะใจเล็กๆ จำได้ดีว่า แซงน้องโอ๋ ไปรษณีย์ไทย ไปได้ระยะพอประมาณเลยทีเดียว

แต่เมื่อพ้นหลักกิโลเมตรที่ 5 เท่านั้น เหมือนวางเท้าหรืออะไรก็ไม่รู้ผิดจังหวะ ทำให้ เจ็บที่เข่าขึ้นมากอีก ยางรัดก็เอาไม่อยู่

จึงต้องหยุดและเดินในทันที เมื่อพ้นเวลา 28 นาที จากการใช้หางตาดู  จิตใจร่องรอย ฤานี่จะเป็นการย้อนรอย จอมบึงมาราธอนปีก่อนอีกแล้วหรือ

ฟุ้งซ่านอีกแล้วงานนี้ เท่านี้ไม่พอ แต่ละคนที่เราแซงมา ก็วิ่งมาแล้วก็ผ่านไป บางคนก็แสดงความห่วงใย ถามอาการ บางคนก็หันมายิ้มเหมือนขำๆ  ซึ่งรวมถึงน้องโอ๋ และน้องชายตัวเองด้วย

เหมือนกับว่ามินิมาราธอนนี้จะจบลงแบบไม่สวยอีกแล้ว  หลังจาก ค่อยๆ เดิน เก็บระยะไป 3 โล จึงอีกพยายามทดสอบดูอีกครั้งว่าสามารถวิ่งได้เลยไม่ ซึ่งปรากฏว่าอาการเจ็บหายไป อาจเป็นเพราะเจ็บมากจนชาหรือป่าว ณ ปัจจุบันก็ยังไม่ค่อยแน่ใจ

การวิ่งเริ่มกลับมาเข้าสิงห์ อีกครั้ง โดยขาดการตรึกตรองถึงงานใหญ่ที่จะมาอีกไม่ถึงเดือนข้างหน้า

ยิ่งวิ่งยิ่งติดเครื่อง สามารถลากจังหวะเร็วๆ ได้อีกครั้ง ระยะ 1 กม สุดท้ายขับเคี่ยวกับน้องในชมรมกันอย่างสนุก ทั้งที่ปกติ ผมทิ้งขาดตลอดสำหรับน้องคนนี้

ระยะ 11.14 กม  ใช้เวลา  1:02:02

สำหรับบรรยากาศหลังเส้น  ผมไม่มีเวลาจะมาสาธยายนะครับ เพราะ อาหารในงานอย่างกับการจัดงานเลี้ยงใหญ่ มากกว่างานวิ่ง ยังไงยังงั้นเลยครับ  ขอตัวไปลุยเอาดาบหน้าก่อนครับ

ปล. โดนสาวๆ หลอกขายลิ้นจี่ เพราะหลาน เสียตังค์อีกตู

มาวิ่งกันทั้งบ้านครับวันนี้

ไช้
18 ธันวาคม 2011


วันเสาร์ที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2554

Race 76 นครธน ปี 3

Race 76 รพ นครธน ครั้งที่ 4

บอยไ่ม่สู้  เลยต้องมาวิ่งหนีพี่คำรณกับพี่อู๊ดสุดชีวิต
ฉลองครบรอบการลงสนามวิ่ง ครบ 2 ปี กับการวิ่งครั้งที่ 3 กับ รพ.นครธน  น้ำลดหมดแล้ว ตอนนี้อารมณ์ในการลงสนามมีมากขึ้นแต่กลับผกผันกับเวลาซ้อมวิ่งที่มีน้อยลง ตามภาระหน้าที่

วันที่ 10 ธันวาคม ปีนี้ บริษัทฯไม่ให้เป็นวันหยุด เพราะแจ้งว่าให้เอาวันนี้ไปชดเชยช่วงที่ตึกปิดในวันอาสาฬหบูชา แทน เอากับเค้าสิ ไม่ให้หยุดก็จะหยุด ใครจะทำไม เพราะเราตั้งใจว่าตราบใดที่ยังวิ่งอยู่ ยังไงก็ต้องมาวิ่งที่นี่ (เชียร์ขนาดนี้แล้ว โรงพยาบาลน่าจะมีส่วนลดให้บ้างนะครับ)

งานในวันนี้ ชมรมเซ็นทรัลพระราม 2 มาวิ่งน้อยกว่าปกติมาก อาจเป็นเพราะ หลายคนอาจเบื่อ หลายคนต้องทำงาน หลายคนตื่นสาย หรือหลายคน ยังหนีน้ำอยู่  ซึ่งไม่ใช่ผม

งานนี้ตั้งใจวิ่งแข่งกับสถิติตัวเองเมื่อปีก่อน ซึ่งจริงๆแล้วมันควรทำลายได้แน่นอนอยู่แล้ว ถ้าเป็นเมื่อสองเดือนก่อน ข้าพเจ้าอาจจะบอกว่า จะวิ่งให้จบเลข 4 ให้ดู  แต่ถ้าถามในปัจจุบัน ขอบอกว่า ขอแค่ให้ดีกว่าเดิมก็พอ  เพราะขาดซ้อม ซ้อมไม่เต็มที่

นานๆ จะมีภาพจากคุณโต ซะที ขอบคุณครับ

ซึ่งการวิ่งยังคงใช้เส้นทางเดิม  ซึ่งข้าพเจ้าก็รู้ว่ามันคือคอนกรีตดีดีนี่เอง จึงต้องนำรองเท้าซ้อม มาวิ่งแทน เพื่อป้องกันอาการบาดเจ็บ

ก่อนการวิ่งหลายวัน คู่ปรับข้าพเจ้าแจ้งว่าไม่สามารถวิ่งได้ เพราะต้องดูแลพื้นที่  แต่กับเจอเหตุการณ์เซอร์ไพรส์ เจ้าตัวสวมชุดวิ่งลงมาวิ่งด้วย แต่เเจ้งผมว่าวันนี้ต้องวิ่งประกบนาย

ผมพยักหน้า แล้วคิดในใจ "งั้นผมนับว่านัดนี้แข่งกัน" ตอนนี้อะไรตอดเล็กตอดหน่อยได้ ผมเอาหมด

ซึ่งก็เป็นไปตามคาด เพราะคู่ปรับผมต้องไปวิ่งอยู่ด้านหลัง

ปล่อยให้ข้าพเจ้า วิ่งบี้ กับ พี่อู๊ด และ พี่คำรณ ในครั้งนี้แทน

ระยะ 10.56  ใช้เวลา 53:46


เมื่อวิ่งจบ เดินทางกล้ับบ้าน พร้อมรอยยิ้ม

ไช้ 7  vs บอย 12

ขณะที่ข้าพเจ้าขับรถกำลังกลับบ้าน  บอยและผองเพื่อน ยังอยู่ กม ที่ 8

โอ้ยๆๆๆๆ

ไช้
วันรัฐธรรมนูญ 2011









วันจันทร์ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2554

Race 75 ย้ำที่สวนลุมอีกรอบ

Race 75  วิ่งเพื่อพ่อ รพ.กล้วยนำไท

ปีนี้เป็นครั้งที่ 2 ที่ได้มาวิ่งงานนี้  โดยปีก่อนกว่าจะได้ถ้วย (โล่ห์) เล่นเอาข้ามปี  มาปีนี้เท่าที่สังเกตุคนที่มาวิ่งวันนี้มีบางตา เมื่อเทียบกับพี่ก่อน   ปีนี้อีกเช่นเคย ที่พิธีกรหญิง  ยังเป็นพี่เกตุ  จำได้ เคยคุยกันพอสมควรในเฟชบุ๊ค แต่ยังไม่เคยคุยกันตัวเป็นๆ

วันนี้ยังไม่มีคู่แข่งอีกเช่นเคย สำหรับเส้นทางภายนอก คล้ายกับเมื่ออาทิตย์ก่อน มีจุดที่แตกต่างจากอาทิตย์ก่อน คือการวิ่งในบริเวณสวนลุมที่ย้อนแปลกๆ

วันนี้ระหว่างทางวิ่งไม่ค่อยออกเหมือนจะเหนื่อยๆ จากงานอย่างไรก็ไม่รู้ เพราะตั้งแต่วิ่งคราวก่อนมาก็ไม่ได้ซ้อมเลย เพราะเป็นช่วงปิดงบปลายปี ซึ่งจะยุ่งแทบทุกวัน ทั้งงานใหม่ งานเก่า

เลยถือว่างานนี้เป็นการซ้อมไปในตัว  การวิ่งดำเนินมาปกติ จะมาไม่ชอบใจก็ตรง จะเข้าเส้นชัยนี่แหละ ถ้านึกถึงสภาพสนามภายในสวนลุมได้จะนึกออกว่า เมื่อพ้นโค้งตาหวานมา จะเจอสะพานข้าม โดยปกติ เราจะวิ่งเลี้ยวขวา เพื่อไปทางด้าน ลานตะวันยิ้ม  แต่งานนี้มาแปลก ให้เลี้ยวซ้ายตัดตรงเข้าจบที่เส้นชัยบริเวณงานแบบโต้งๆ  ซึ่งคงไม่มีปัญหาอะไรถ้ามีคนบอก  แต่ในช่วงที่ข้าพเจ้าวิ่ง ก็จำไม่ได้ว่ามีคนบอกหรือป่าว แต่มีหลายคนเลี้ยวขวาครับ แล้ววิ่งมาเข้าเส้นชัยด้านหลัง

ก็ว่ากันไป



เวลาปล่อยตัวช้าไปแปดนาที ให้อภัย เพราะเป็นช่วงจุดเทียนถวายพระพร และต้องมาจัดการเรื่องหน้าเส้นกันอีก   ปีนี้ ก็ยังเป็นอีกปี ที่จุดเทียนในงาน แล้ว ต้องระวังถึงระวังมากที่สุดไม่ให้ไฟดับ   ปีหน้าขอแบบมีที่กันลมด้วยนะครับผู้จัด  ไม่งั้นต้องเตรียมไฟแฉกไปต่อไฟแน่ๆ เลย เพราะลมแรงมากในนั้น ยังไงก็ดับครับ

ระยะ 10.96 กม  ใช้เวลา  1:01:49

ไช้
วันพ่อแห่งชาติ 2011