ในที่สุดสิ่งที่เรากลัวก็เกิดขึ้น อุทกภัยเกิดขึ้นไปทั่วกรุงเทพชั้นนอก ทำให้ฝ่ายการจัดการแข่งขัน กรุงเทพฯ มาราธอน ตัดสินใจเลื่อนการแข่งขันออกไปอย่างไม่มีกำหนด
ณ ช่วงนั้น น้ำท่วมไปทั่ว บางทีสูงขึ้นชั้น 2 บางที่ระดับเอว ถนนพระราม 2 น้ำไม่สามารถข้ามถนนมาได้ จึงทำให้ชาวบ้านแถวพระราม 2 รอดจากอุทกภัยในครั้งนี้
แต่จากเหตุการณ์เดือนตุลาคม - พฤจิกายน ทำให้จิตใจหึกเหิมในการวิ่งเพื่อมาราธอนมอดลง ซึ่งจริงๆ แล้ว มันมอดลงตั้งแต่การลงซ้อม 30 กม ก่อนหน้านี้ แล้วเกิดสภาพจิตตก ไม่อยากวิ่ง ไม่อยากซ้อม เกิดอาการเบื่อ ซึ่งตอนนั้นยังไม่เกี่ยวกับเหตุการณ์น้ำท่วมเลย
มันเหมือนกับว่า มันเลยจุดพีค ของร่างกายไปแล้ว ต้องรอชารต์แบตเตอร์รี้ใหม่ พอจะชาร์ตไฟ น้ำก็ดันมา จึงทำให้เกิดอาการไฟดับ อาการนี้ส่งผลต่อการซ้อมมาก ยิ่งมาบวกกับเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงในชีวิตตั้งแต่ต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา คือมีการโอนย้ายงานข้ามบริษัทฯ แผนชีวิตเลยต้องเปลี่ยน ปรับปรุงชีวิตใหม่ หลังจากที่เคยทำงานแบบวางแผนทำงาน วางแผนเวลาการทำงานในแต่ละช่วงได้
เมื่อย้ายมาอยู่บริษัทใหม่ นั้นทำให้การจัดการทำไม่ได้เลย เพราะด้วยขนาดองค์กรที่มีขนาดใหญ่ จึงไม่สามารถควบคุมอะไรได้ แต่อะไรก็ไม่เหนื่อยเท่า ย้ายอยู่บริษัทใหม่ ต้องทำงานให้ที่ใหม่ แต่ยังต้องรับผิดชอบงานของบริษัทเดิมอีก โดยทิ้งไม่ได้ ซึ่งเป็นเหตุผลส่วนตัวล้วนๆ
หลายเหตุการณ์ปะดังเข้ามา การเกเรการซ้อมจึงเกิดขึ้นในที่สุด พยายามหาสิ่งเร้ามากระตุ้น ไม่ว่าจะลองไปว่ายน้ำ ไปปั่นจักรยาน ก็ไม่สามารถสร้างจินตการให้กลับมาได้
การซ้อมรวมกลุ่มของเพื่อนๆ ในสถาวรรันนิ่งคลับ ก็ถูกงดไป เพราะแต่ละคน ก็หนีน้ำกันจ้าระหวั่น ซึ่งกว่ากรุงเทพฯ จะเข้าเข้าทางก็เกือบปลายเดือนพฤศจิกายนเข้าไปแล้ว
งานวิ่งนี้แทบจะเป็นงานแรกในรอบสองเดือนเลยทีเดียว ที่อาจหาญจัดขึ้นมา ซึ่งตัวข้าพเจ้าเอง ก็หวังว่าจะอาศัยรายการแข่ง เป็นตัวสร้างแรงกระตุ้นในอยากซ้อมมากขึ้น เพราะถึงแม้กรุงเทพฯมาราธอนจะเลื่อนไปแล้ว แต่รายการจอมบึงยังไงก็ไม่เลื่อนแน่นอน
วันนี้หลังการวิ่ง ทีมซ้อม มีนัดหมายรวมตัวกันที่ ตรงจุดนาฬิกา ตรงหลัง ร 6 ซึ่งการลงสนามวันนี้ก็หวังว่าจะทำให้จุดไฟให้ติด
สำหรับเส้นทางวิ่งวันนี้ เป็นการปล่อยตัวที่ประตูด้านหลัง อนุสาวรีย์ รัชกาลที่ 6 วิ่งออกด้านหน้าแล้วเลี้ยวซ้าย และไปเลี้ยวซ้ายเลาะรั้วสวนลุม จากนั้นตรงไป ยังแยกบริเวณถนนเพลินจิต แล้วเลี้ยวซ้ายอีกครั้ง
จากนั้นยิงตรงไปเลี้ยวซ้ายเข้าถนนอังรีดูนัง อีกครั้ง จากนั้นก็ยิงตรงยาว จนข้ามแยกเข้าถนนสุรวงค์ ไปเลี้ยวซ้ายอีกครั้งตรงแยกถนนนราธิวาชราชนครินทร์
วิ่งตรงยาว ไปจนถึงถนนสาทร แล้ว เลี้ยวซ้าย ยิงตรงบนเส้นถนนสาทร แล้วข้ามไปถนนวิทยุ อ้อมสวนลุมด้านนอกแล้ววิ่งกลับมาเข้าเส้นชัยที่ทางออกอีกครั้ง
เส้นทางนี้ รถเยอะพอสมควร แต่ก็สามารถกระตุ้นไฟที่มอดให้มีแสงรำไรขึ้นมาอีกครั้ง
งานนี้กว่าจะแซงคุณป้อมได้ ก็ตรงถนนสาทร แล้ว เกือบไปแล้ว ส่วนพี่ย้ง พยายามกวดแล้ว แต่พอวิ่งครบ 10km ระยะสถิติ ก็ผ่อนคันเร่งซะงั้น จึงตามไม่ทันโดยปริยาย
หลังงาน ได้รับความอนุเคราห์ะ จากพี่ทนงศักดิ์ พาไปเลี้ยง ข้าวต้มในสวนลุมด้วย พี่เค้าใจดีจริงๆ (ลาภปากอีกแล้ว)
มิงค์ ถ่าย กับเสด็จพ่อ (ละครเรื่อง เจ้าหญิงย้อนยุค) |
ไช้
27 พฤศจิกายน 2011