Race 88 หัวใจอาสา
งานหัวใจอาสาครั้งที่ 2 นี้ สโมสรสถาวรรันนิ่ง ได้รับการสนับสนุนจาก มิซูโน โดยให้เสื้อยืด มิซูโน และเบอร์วิ่ง จำนวนหนึ่งมาช่วยสนับสนุนสโมสร นอกจากนี้ สโมสรยังถือการแข่งรายการนี้เป็นการวัดผลการฝึกซ้อมที่ผ่านมา
วันนี้ตั้งเป้าจะทำเวลาให้ดี หลังจากฝึกซ้อมมาเวลาที่ซ้อมก็ดีขึ้นเยอะ แต่วันนี้มีโจทก์ใหม่คือ เพื่อเป็นการตอบแทนน้ำจิตน้ำใจของมิซูโนที่มอบให้ สโมสรจึงร่วมใจใส่เสื้อยืดมิซูโน่ ลงวิ่ง เพื่อช่วยประชาสัมพันธ์ให้ สำหรับเส้นทางการวิ่ง ออกจากโตคิว แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนนบรรทัดทอง และเลี้ยวกลับที่ถนนพระราม 4 จากนั้นก็ยิงตรงไปเลี้ยวตรง สวนลุมพินี จากนั้นก็ใช้เส้นทาง ถนนวิทยุ และไปเข้าเส้นทางถนนสุขุมวิท ก่อนที่จะวิ่งกลับเข้าถนนพระราม 1 และกลับเข้าจุดสตารท์อีกครั้ง
สิ้นเสียงปล่อยตัว การชิงไหวชิงพริบ ในการแย่งชิงเป็นผู้นำในกลุ่มฝึกซ้อมเริ่มเกิดขึ้น โดยในครั้งนี้พี่น้อย ชิงสปีดออกไปก่อน ตามด้วยข้าพเจ้า และมีพี่วิเชียรตามมาติดๆ ซึ่งข้าพเจ้าจำได้เพียงลางๆ ว่า มีการสลับกันแซงโดยตลอด แต่ที่ข้าพเจ้าจำได้แม่นสำหรับงานนี้คือ แทบทุกคนมาหมดแรงกันตรงสวนลุม แรงตกกันหมด ไม่รู้ว่าตรงนั้นเป็นเนินสูง หรือเป็นจุดยุทธศาสตร์อะไรกันแน่
แต่เหตุผลส่วนตัวของข้าพเจ้าเอง มาจากการวิ่งสปีดที่ 4.30 ในช่วง 3 กม แรก ซึ่งเป็นสปีดที่ไม่เคยวิ่งเร็วขนาดนี้ ทำให้เกิดอาการน็อคเพราะช่วงแรกเร็วเกินไป
ซึ่งทำให้ช่วงหลัง ต้องวิ่งประคองอย่างเดียว ไล่เพื่อนไม่ทันอีกแล้ว แถมดมควันรถอีกตลอดทาง
ระยะ 8.54 กม
ไช้ ใช้เวลา 43.20 นาที
บอย ใช้เวลา 40.45 นาที
ไช้ 9 บอย 17
วันอาทิตย์ที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2555
วันอาทิตย์ที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2555
Race 87 ดอนบอสโก้
Race 87 ดอนบอสโก้
หลงทางกันเป็นแถว สำหรับแนวหน้า งานนีี้ นักวิ่งฝีเท้าเยี่ยมไม่ยอมโชว์สปิริต เลยทั้งที่อาทิตย์ก่อนเรายังยกย่องเค้าอยู่เลย มาอาทิตย์นี้ กลับเป็นคนละความรู้สึก กับการไปยืนเฝ้าถ้วยโอเวอร์ออล
เช้านี้กับงานวิ่งดอนบอสโก้ ที่เคยได้วิ่งเมื่อครั้งก่อนที่จัดที่สวนหลวง ร9 ถือว่าจัดได้ดี แต่ปีนี้ทางโรงเรียน สถานที่อีกครั้ง หลังจากที่เคยจัดที่ราบ 11 และสวนหลวง ร 9 มาครั้งนี้เป็นการคืนสุู่ถ้ำ โดยย้ายมาจัดที่โรงเรียน ซึ่งข้าพเจ้ามิได้สำรวจเส้นทางสำหรับการมาวิ่งที่นี่เลย เพราะคิดว่าเป็นถนนที่ขับผ่านบ่อยๆ ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรกับการเดินทาง แต่เป็นสิ่งที่ข้าพเจ้าคิดผิด เพราะว่าสถานที่จัดงานที่ข้าพเจ้าเข้าใจจริงๆ แล้วมันคืออีกโรงเรียนหนึง ที่อยู่ตรงข้ามกัน ดีที่ว่าเมื่อขับรถไปถึงงานและผ่านไปแล้วเพื่อนบอยที่นั่งไปด้วยร้องบอก ข้าพเจ้าเหยียบเบรคแทบไม่ทัน แต่ถึงแม้จะทัน ก็เลยสถานที่ไปหลายเมตรอยู่เหมือนกัน จึงต้องอาศัยวิธีการถอยหลังกลับ เพราะไม่อยากเสียเวลาไปกลับรถ เพราะใกล้เวลาปล่อยตัวเต็มแก่
วันนี้รู้ภาระกิจต่อจากงานนี้แล้ว คือการไปประชุมผู้ปกครองในเวลา 8.30 ในตอนเช้า ซึ่งทำให้คุยกันว่าวันนี้จบงานเสร็จห้ามโอ้เอ้ เพราะจะต้องกลับไปทำธุระให้ทันตามเวลา
การวอร์มอัพในวันนี้ อาศัยวิ่งในบริเวณโรงเรียนเพื่อให้ได้เหงื่อ แต่หลังจากวิ่งไปได้แค่ไม่ถึงนาที ข้าศึกเริ่มโจมตี ทำให้ต้องพยายามหาห้องน้ำเข้าให้ทัน ซึ่งเมื่อไปถึง ก็พบกับคิวที่ต่อกันนานมาก จนเพื่อนบอกว่ามีอีกฝั่งที่ไม่มีคน ข้าพเจ้าจึงรีบย้ายสถานที่เพื่อทำธุระให้เสร็จก่อนเวลา
การที่เราสามารถถ่ายท้องก่อนออกวิ่งได้ นี่ถือว่าเป็นอะไรที่วิเศษมากเพราะนอกจากจะทำให้ตัวเบาแล้ว อุปสรรคระหว่างทางก็จะหมดไปด้วย ข้าพเจ้ามีประสบการณ์ในการแบกท้องวิ่งไปตลอดทาง รู้ดีว่าเป็นการทรมานตัวเองอย่างที่สุด ถ้าหลีกเลี่ยงได้ก็ควรจะหลีกเลี่ยง
6 นาฬิกา เป็นเวลาปล่อยตัว ออกจากโรงเรียน ใช้ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ เป็นเส้นทางวิ่ง ออกจากโรงเรียนก็ต้องวิ่งขึ้นสะพานข้ามแยก อโศกและวิ่งไปเลี้ยวซ้ายที่บริเวณแยกที่ตัดไปถนนพระราม 9 สำหรับเส้นทางเมื่อเข้าสู่ถนนพระราม 9 รู้สึกสับสนนิดหน่อยเพราะ ต้องวิ่งกลับเข้ามาเส้นศูนย์วิจัย ซึ่งตอนแรกเข้าใจว่าที่ต้องวกกลับเข้ามาเพราะระยะทางไม่ถึงจึงทำให้ต้องเปลี่ยนเส้นทางแบบนี้ และจากจุดนี้เอง อาจจะเป็นสาเหตุของเหตุการณ์ข้างบนที่ข้าพเจ้าจั่วหัวไว้
สำหรับงานนี้มีข้อที่ต้องปรับปรุงแก้ไขมากในเรื่่องเส้นทางที่สับสน ตามแยกต่างๆ ไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือผู้สามารถควบคุมเส้นทางได้ เพราะการที่เอาเด็กนักเรียนไปยืนตรงนั้น โดยที่ไม่สามารถควบคุมรถได้ ทำให้เกิดอันตรายได้ ที่น่ากลัวที่สุด คือเส้นทางวิ่งที่วกเข้ามาที่ศูนย์วิจัย
หลังจากวกไปวนมาในนั้นพักใหญ่ ก็กลับมาสู้เส้นทางเรียบทางด่วน ซึ่งวันนี้ได้เห็นรถไฟฟ้าของแอร์พอร์ตลิงค์ เส้นทางตรงนี้ก็เป็นการวิ่งขึ้นสะพานยาวๆ เรียกเหงื่อได้อยู่เหมือนกัน สำหรับการวิ่งวันนี้ ก่อนการวิ่งยังมีอาการเจ็บแฮมสตริงอยู่ จึงค่อยๆเคาะไปช้าๆ ในช่วงแรก และเพิ่มความเร็วขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็ยังไม่ได้เวลาเหมือนเดิมที่เคยทำได้ จึงพยายามวิ่งประคองให้ได้ 10k ที่พอจะทำได้ และ ระยะทางที่เหลือ จึงจ็อคกลับ งานนี้ ตั้งแต่ปล่อยตัวไม่เห็นเพื่อนรักเลย เพราะเค้าทิ้งผมไปเป็นกิโล
สรุปงานนี้ แพ้ บอย เกือบ 5 นาที
หลังจากวิ่งเสร็จ ก็มาดูละครฉากใหญ่ ที่ตัวเอกของงานต้องมานั่งเศร้าปนอาการงง จากตัวเอกของงานอีกตัว ที่วิ่งผิดทางเพราะรถนำผิดเป็นกลุ่มใหญ่ และเข้าที่หลังคนที่วิ่งถูกทาง รับถ้วยแทน
No spirit No happy
ระยะจริง 11.78 KM
ไช้ ใช้เวลา 1.01.28 นาที
บอย ใช้เวลา 0:57:56 นาที
ไช้ 9 บอย 16
วันอาทิตย์ที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2555
Race 86 รพ ศิขรินทร วิ่งลอดอุโมงค์
Race 86 รพ ศิขรินทร
สำหรับงานนี้ทางกลุ่มสถาวร ยกก๊วนกันไปเพื่อตอบแทนเมื่อครั้งงานสมันน้อย สอยพยัคฆ์ ที่ทาง โรงพยาบาล มาช่วยอำนวยความสะดวกทางการแพทย์ให้เมื่อวันงาน
งานนี้เป็นงานที่ตัดสินใจระหว่างงานที่ โรงพยาบาลพระมงกุฏกับที่นี่ สุดท้าย ก็หนีมาที่นี่ เพราะเส้นทางนี้ยังไม่เคยทดสอบการวิ่งผ่านอุโมงค์ว่าจะเป็นอย่างไร เผื่อจะมีโอกาสได้วิ่งลอดอุโมงค์ที่ฮ่องกงมาราธอนกับเค้าบ้าง
หลังจาก ไทยแลนด์ฮาล์ฟ มาราธอนที่ผ่านมา ทำให้ข้าพเจ้าที่เคยมีคำถามในใจตลอดว่าคนเจ็บรองช้ำ เจ็บยังไง เจ็บตรงไหน แล้วทำไมมันถึงหายยากหายเย็น
บัดนี้ข้าพเจ้าได้เริ่มลิ้มรสสำหรับมันทีละน้อย ซึ่งก็ยังไม่แน่ใจว่าใช่หรือไม่ใช่ แต่เป็นอย่างนี้มาเป็นอาทิตย์แล้ว ตื่นมาเหยียบพื้นไม่ได้ เพราะมันเจ็บจี๊ดบริเวณส้นทาง
ก็คิดว่าคงวันสองวัน แต่ที่ไหนได้ ลากมาอาทิตย์กว่าแล้ว ก็ยังไม่ได้มีทีท่าว่าจะสลัดอาการเหล่านี้ออกไปได้เลย ตอนนี้มาย้อนคิดถึงสาเหตุว่าเกิดมาจากสิ่งใด
ผู้รู้หลายท่านกว่าไว้ว่า อาการรองช้ำเกิดจากเส้นเอ็นที่ไม่แข็งแรง ทำให้เกิดอาการบาดเจ็บ การวิ่งลงส้น ทำให้เจ็บ
"แล้วทำไม วิ่งมาเกือบสามปี เพิ่งจะมาเป็น" นี่คือข้อสงสัย
เพราะมาราธอน หรือป่าว หลังจากวิ่งเต็มพิกัดกับจอมบึงมาราธอน กับ วิ่งเล่นที่ กรุงเทพ มาราธอน ทำให้เป็นสาเหตุอาการบาดเจ็บหรือป่าว
เพราะรองเท้าเอสิคใหม่ หรือป่าว เพราะหลังจากได้รองเท้าวิ่งมา ก็นำมาอัดเต็มที่ในงานนี้เลย อาการออกตั้งแต่ตอนวิ่ง เพราะความที่เป็นรองเท้าสลิมทำให้เจ็บฝ่าเท้าเวลาวิ่งมาก นี่คือสาเหตุหรือป่าว
เค้าบอกว่า ถ้าเจ็บให้หยุดพัก แล้วจะต้องหยุดไปถึงเมื่อไหร่ ถึงจะหายเจ็บ จะต้องหยุด จะต้องรักษาอย่างไร ที่ให้ได้ผล ไม่มีใครตอบได้ นอกจากบอกให้พัก รู้มั้ยว่ามันทรมาน
ในเมื่อหยุดไม่ได้ ก็ต้องใส่มันให้สุดๆไปเลยครับ
งานวันนี้ สโมสร หมายมั่นปั้นมือ กับ over all โดยมีอุ้มยศ วันนี้ใส่เสื้อสโมสรสถาวร วิ่ง ซึ่งก็ไม่สร้างความผิดหวัง สามารถนำม้วนเดียวจบเค้าถ้วย over all ได้สำเร็จ แต่จากกรณีดังกล่าว หลังจากงานก็ได้มี การโวยวายจากกลุ่มคนที่ผิดหวังรางวัลมาโวยวายสนั่นเว็บอยู่พักนึงว่าเอาทีมชาติมาวิ่งทำไม ทั้งที่เค้าควรจะติดถ้วยถ้าไม่มีเจ้าเป้ามาวิ่ง ถึงขนาดมีปืนเข้ามาเป็นส่วนประกอบของเรื่อง ป๊าดโธ่เอ๊ย คุณเข้าที่ 7 จะมาโวยวายอะไร น้องเอ็ม เค้าเข้าที่ 6 ยังไม่พูดอะไรเลย
สำหรับเส้นทางวันนี้ การปิดการจราจร ทำได้ดีส่วนหนึ่ง ยังมีบางจุดที่ควรปรับปรุง เรื่องความปลอดภัยนิดหน่อย สำหรับเส้นทางเป็นที่น่าเสียดายที่จัดระยะไม่ครบ 10 กม ทำให้ไม่สามารถประเมินสถิติตัวเองได้
วันนี้ วิ่งตามคู่หู ไม่ทันอีกตามเคย ตามตั้งแต่ต้นยันจบ อีกครั้ง
ระยะจริง 8.43 กม
ไช้ ใช้เวลา 45.03 นาที
บอย ใช้เวลา 42.05 นาที
ไช้ 9 บอย 15 ห่างออกไปเรื่อยๆ
สำหรับงานนี้ทางกลุ่มสถาวร ยกก๊วนกันไปเพื่อตอบแทนเมื่อครั้งงานสมันน้อย สอยพยัคฆ์ ที่ทาง โรงพยาบาล มาช่วยอำนวยความสะดวกทางการแพทย์ให้เมื่อวันงาน
งานนี้เป็นงานที่ตัดสินใจระหว่างงานที่ โรงพยาบาลพระมงกุฏกับที่นี่ สุดท้าย ก็หนีมาที่นี่ เพราะเส้นทางนี้ยังไม่เคยทดสอบการวิ่งผ่านอุโมงค์ว่าจะเป็นอย่างไร เผื่อจะมีโอกาสได้วิ่งลอดอุโมงค์ที่ฮ่องกงมาราธอนกับเค้าบ้าง
หลังจาก ไทยแลนด์ฮาล์ฟ มาราธอนที่ผ่านมา ทำให้ข้าพเจ้าที่เคยมีคำถามในใจตลอดว่าคนเจ็บรองช้ำ เจ็บยังไง เจ็บตรงไหน แล้วทำไมมันถึงหายยากหายเย็น
บัดนี้ข้าพเจ้าได้เริ่มลิ้มรสสำหรับมันทีละน้อย ซึ่งก็ยังไม่แน่ใจว่าใช่หรือไม่ใช่ แต่เป็นอย่างนี้มาเป็นอาทิตย์แล้ว ตื่นมาเหยียบพื้นไม่ได้ เพราะมันเจ็บจี๊ดบริเวณส้นทาง
ก็คิดว่าคงวันสองวัน แต่ที่ไหนได้ ลากมาอาทิตย์กว่าแล้ว ก็ยังไม่ได้มีทีท่าว่าจะสลัดอาการเหล่านี้ออกไปได้เลย ตอนนี้มาย้อนคิดถึงสาเหตุว่าเกิดมาจากสิ่งใด
ผู้รู้หลายท่านกว่าไว้ว่า อาการรองช้ำเกิดจากเส้นเอ็นที่ไม่แข็งแรง ทำให้เกิดอาการบาดเจ็บ การวิ่งลงส้น ทำให้เจ็บ
"แล้วทำไม วิ่งมาเกือบสามปี เพิ่งจะมาเป็น" นี่คือข้อสงสัย
เพราะมาราธอน หรือป่าว หลังจากวิ่งเต็มพิกัดกับจอมบึงมาราธอน กับ วิ่งเล่นที่ กรุงเทพ มาราธอน ทำให้เป็นสาเหตุอาการบาดเจ็บหรือป่าว
เพราะรองเท้าเอสิคใหม่ หรือป่าว เพราะหลังจากได้รองเท้าวิ่งมา ก็นำมาอัดเต็มที่ในงานนี้เลย อาการออกตั้งแต่ตอนวิ่ง เพราะความที่เป็นรองเท้าสลิมทำให้เจ็บฝ่าเท้าเวลาวิ่งมาก นี่คือสาเหตุหรือป่าว
เค้าบอกว่า ถ้าเจ็บให้หยุดพัก แล้วจะต้องหยุดไปถึงเมื่อไหร่ ถึงจะหายเจ็บ จะต้องหยุด จะต้องรักษาอย่างไร ที่ให้ได้ผล ไม่มีใครตอบได้ นอกจากบอกให้พัก รู้มั้ยว่ามันทรมาน
ในเมื่อหยุดไม่ได้ ก็ต้องใส่มันให้สุดๆไปเลยครับ
งานวันนี้ สโมสร หมายมั่นปั้นมือ กับ over all โดยมีอุ้มยศ วันนี้ใส่เสื้อสโมสรสถาวร วิ่ง ซึ่งก็ไม่สร้างความผิดหวัง สามารถนำม้วนเดียวจบเค้าถ้วย over all ได้สำเร็จ แต่จากกรณีดังกล่าว หลังจากงานก็ได้มี การโวยวายจากกลุ่มคนที่ผิดหวังรางวัลมาโวยวายสนั่นเว็บอยู่พักนึงว่าเอาทีมชาติมาวิ่งทำไม ทั้งที่เค้าควรจะติดถ้วยถ้าไม่มีเจ้าเป้ามาวิ่ง ถึงขนาดมีปืนเข้ามาเป็นส่วนประกอบของเรื่อง ป๊าดโธ่เอ๊ย คุณเข้าที่ 7 จะมาโวยวายอะไร น้องเอ็ม เค้าเข้าที่ 6 ยังไม่พูดอะไรเลย
สำหรับเส้นทางวันนี้ การปิดการจราจร ทำได้ดีส่วนหนึ่ง ยังมีบางจุดที่ควรปรับปรุง เรื่องความปลอดภัยนิดหน่อย สำหรับเส้นทางเป็นที่น่าเสียดายที่จัดระยะไม่ครบ 10 กม ทำให้ไม่สามารถประเมินสถิติตัวเองได้
วันนี้ วิ่งตามคู่หู ไม่ทันอีกตามเคย ตามตั้งแต่ต้นยันจบ อีกครั้ง
ระยะจริง 8.43 กม
ไช้ ใช้เวลา 45.03 นาที
บอย ใช้เวลา 42.05 นาที
ไช้ 9 บอย 15 ห่างออกไปเรื่อยๆ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)