หลังจากทางค่ายหนัง GTH ได้เริ่มมีการโปรโมท และประกาศวันเข้าฉาย ภาพยนตร์ รัก 7 ปี ดี 7 หน ทำให้เกิดกระแสความตื่นตัวของหมู่นักวิ่งที่จะเข้าไปชมภาพยนตร์เรื่องนี้ ทั้งอยากดู ทั้งอยากรู้พอตเรื่องว่าเป็นอย่างไร ใช่อย่างที่พวกเรารู้สึกกันหรือป่าว บ้างก็อยากพาครอบครัวและคนรู้จักไปดู เพราะตัวเองเป็นหนึ่งในนักแสดงประกอบ ที่เป็นนักวิ่งจริงๆ กัน เกือบ สามร้อยชีวิต
จากการดำริเล่นๆ กันในกลุ่ม โดยพี่ย้ง ว่าเราน่าจะทำอะไรที่ไม่เคยทำ ในการไปดูหนังเรื่องนี้ โดยน่าจะรวบรวมสมาชิกที่จะไปดูหนังเรื่องนี้ โดยนัดกัน และจ็อคกันไปก่อนเข้าไปดูหนัง
จากไอเดียนี้ พี่ใหญ่ของเรา พี่ทนงศักดิ์ จึงได้นำมาสานต่อ โดยการใช้คอนเน็กชั่นที่มีประสานไปยังทีมผู้สร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ ซึ่งทำให้สามารถนำภาพยนตร์ออกฉายได้ก่อน การเปิดฉายจริง ซึ่งสรุปกันที่วันที่ 22 กรกฏาคม 2555 มีเวลาอีกสองอาทิตย์กับการเตรียมการ
จากแคมเปญแรก งานสมันน้อยสอยพย้คฆ์ ที่เป็นงานที่กลุ่มสถาวรรันนิ่งคลับ จัดงานวิ่งเล็กๆ ขึ้นมา ซึ่งครั้งนั้นข้าพเจ้าไม่มีส่วนร่วมเท่าไหร่ เพราะติดภาระกิจวันงาน จนมาแคมเปญที่สองนี้ ก็ตั้งใจว่าจะมีส่วนร่วมเต็มที่ ประกอบกับเมื่อต้นเดือน ข้าพเจ้าได้ตัดสินใจลาออกจากงานประจำที่ทำอยู่ ทำให้มีเวลาเต็มตัวที่เข้ามาช่วยในครั้งนี้
ด้วยระยะเวลาที่จำกัด หน้าที่ต่างๆ จึงถูกกระจายกันออกไปตามความถนัดของแต่ละคน
งานออกแบบเสื้องาน ได้เฮียเจี่ย มาช่วยทำแบบให้ โดยทางพี่นง เป็นผู้จัดหาผู้ทำเสื้อให้
งานออกแบบเสื้อสต๊าฟและเบอร์วิ่ง ได้พี่ย้ง ออกแบบและจัดทำเสื้อให้ ส่วนเบอร์ทางสมาพันธ์ทำให้
งานประสานงาน กับ ตำรวจ ได้พี่ย้ง วิ่งเป็นแมสเซนเจอร์ ไปยื่นเอกสารให้ ที่ บกชน
งานทำป้ายงานนักวิ่งมาราธอน ป้ายสปอนเซอร์ไวนิลป้ายงาน และป้ายเชียร์ ได้ คุณป้อม และคุณเอก และอาจารย์สถาวร ช่วยดำเนินการ
งานทำตั่วหนัง ได้ทีมงาน จากรัชมังคลา พี่ปุ๊ก น้องแจง พี่อู๊ด เป็ด สาว และคนอื่นๆ อีกหลายคนช่วยกันทำ โดยอุปกรณ์การทำ ได้รับความช่วยเหลือจากพี่ตุ้ม
งานประสานงานกับสถานที่ มีพี่นง พี่ย้ง อาจารย์ พี่ปุ๊ก ช่วยประสานงานที่จุฬา และโรงหนังสกาล่าให้ จนไม่ต้องจ่ายค่าสถานที่ ที่จุฬา ทำให้ประหยัดงบประมาณไปได้เยอะ
งานจ้ัดทำผ้าขนหนู อาจารย์รับผิดชอบดูแล
งานสปอนเซอร์ ช่วยๆ กันหา
ธีมในงานที่วางแผนกันไว้ คือ มีการจัดวิ่งกันพอเหนื่อยที่ระยะไม่เกิน 5 กม และเข้าดูภาพยนตร์ หลังภาพยนตร์จบ จะมีการพูดคุยกับผู้กำกับและนักแสดงนำ
ด้วยเวลาที่จำกัด กับการจัดงาน การประชาสัมพันธ์ นี่เป็นการต่อสู้กับความเสี่ยงมาก
ความเสี่ยงที่ คนจะไม่มาร่วมงาน กับ คนที่มาร่วมงานเกินกว่า โรงภาพยนตร์ จะรับได้
จึงทำใ้ห้ต้องประกาศรับจำกัด 700 คน ซึ่งพี่นงและอาจารย์ได้ไปประชุมที่สมาพันธ์และแจ้งให้ในที่ประชุมทราบว่า งานนี้ อาจจะต้องแบ่งๆ ให้แต่ละชมรมไม่เกิน 20 ใบ เพื่อที่จะได้กระจายกันไป
ซึ่งก็ทำให้มีการเปิดจองกันในที่ประชุม เกิน 500 ที่นั่ง ซึ่งทำให้เราทีมงานสบายใจในเรื่องของจำนวน
เพราะเราตั้งใจแล้วล่วงหน้าว่าจะนำออกมาจำหน่ายผ่านหน้าเฟชบุค จำนวน 100 ที่นั่ง และไม่เปิดขายหน้างาน
คนเรามักจะชอบแสดงความมั่งมี ต่อหน้า สาธารณะชน เมื่อข้าพเจ้าได้เข้ามาดูแลในส่วนนี้ร่วมกับม็อค ในการจัดส่งและดูแลเรื่องการจำหน่ายบัตรเข้างาน ทำให้รู้ซึ้งไปเลยทีเดียว
จากตัวเลขที่แสดงศักยภาพในที่ประชุม เมื่อถึงเวลาจริง กลับหดหาย ทยอยไม่มีตัวตน ไปมากโข ซึ่งก็ถือว่ารู้หน้าไม่รู้ใจ ติดต่อไม่ได้ โทรไปไม่รับ ไม่รู้เรื่อง สารพัดข้ออ้าง (ถ้าจะไม่เอาก็บอกมาตรงๆ ไม่ใช่มากั๊ก) งานนี้ทำให้ได้พบมิตรแท้ไปหลายคน หนึ่งในนั้นคือ พี่สุเทพจากบางขุนเทียน และคุณเจี๊ยบ จากจ็อกแอนด์จอย
การทยอยส่งเสื้อเป็นไปอย่างเร่งด่วน ในเช้าวันศุกร์ ก่อนวันงานสองวัน เนื่องจากเสื้อเพิ่งออกจาก โรงงาน อุ่นๆ ตอนเวลา 19:30 ของคืนวันพฤหัส ซึ่งในคืนวันพฤหัส ก็ได้น้องเอ็ม ช่วยขับมอเตอร์ไซด์ ไปรับเบอร์วิ่งจากสมาพันธ์ที่วิภาวดีมาให้
แผนการส่งเสื้อพร้อมเบอร์วิ่ง กำหนดขึ้นอย่างคร่าวๆ เพื่อให้ทันทั้งหมดในวันเดียว โดยเริ่มจากตอนเช้า ม็อค เดินทางคนเดียวไปส่งให้ที่ชมรมสวนธน และตอนบ่าย ข้าพเจ้าร่วมเดินทางกับการมุ่งหน้าไปส่งที่ชมรมฟอร์รันเนอร์ ต่อด้วย การกับบ้านมาเอาเสื้อเพิ่ม เพราะหยิบไซด์มาไม่พอ
จากนั้นก็เริ่มเดินทางต่อไป ยังพี่สุเทพ บางขุนเทียน โดยซ้อน้อย เป็นคนรับของไป ซึ่งยอดที่ทางบางขุนเทียนช่วยเหลือ มีจำนวนมากกว่าที่ แจ้งไว้ที่ประชุมเยอะมาก เพราะต้องการช่วยเหลือทางเราที่ถูกหลายชมรม ปฏิเสธ มาตอนหลัง
จากนั้นก็รีบไปที่ โรงงานคุณกฤตณ์ ชมรม รักอิสระ 1144 และต่อด้วยบ้านบางแค หลังจากนัดแนะเวลากับพี่สุจิตต์ชมรมเพื่อนบางแคไว้
ซึ่งตอนนั้นก็เกือบ 4 โมงแล้ว ซึ่งเป็นเวลาที่นัดกับทางจ็อคแอนด์จอย ไว้ ทำให้เดินทางไปถึงช้ากว่าปกติ ถึงบริษัท เกือบ 6 โมงเย็นแล้ว ที่นี่น้องชายผมเค้ามีทีเด็ด แต่ทำเอาผมงอนพี่กิ๊บไปเลยงานนี้เพราะโทรมาผิดจังหวะ 55+ สำหรับ งานนี้ จ็อกแอนด์จอย สมัครมาร่วม ร้อยเบอร์
ยังเหลืออีก 2 ที่ ที่ยังไม่ได้ส่ง จึงตกลงกันว่า จะแยกกันไปส่ง โดยข้าพเจ้าไปส่งที่บ้านคุณสุเทพ เซ็นทรัลพระราม 2 โดยนั่งแท๊กซี่ ไปส่งต่อ ส่วนม็อค ก็ไปส่งให้ชมรมวินเนอร์รัน อีกที
กว่าจะส่งเสร็จก็เล่นเอาระบมไปทั้งตัว เพราะยกขึ้นยกลงกันทั้งวันกับกองเสื้อทั้งหมด
เช้าวันเสาร์ นัดหมายผู้ร่วมจองผ่านเฟชบุค บางส่วน มารับที่สนามซ้อม ม.รามคำแหง ทำให้ไม่สามารถซ้อมได้ตามปกติ นอกจากนี้ยังนัดหมายการรับผ้าขนหนูที่สั่งไว้ มาส่งที่นี่ด้วย
ซึ่งงานนี้ก็กระจายบรรทุก กันไปตามๆ กัน เพราะของเยอะมาก
เช้าวันอาทิตย์ เวลานัดหมายของทีม เริ่มตั้งแต่เที่ยงคืน
โดย จุดสตารท์และเวที เข้ามาเป็นทีมแรก ที่เวลา 1:00 เริ่มติดตั้งป้ายและเวที แล้วเสร็จเวลา 2:00 จากนั้นก็เริ่มตั้งเต้นท์ ต่างๆ
จากนั้นสต๊าฟบางคนที่มาจอดรถไว้ก็ทยอยตื่นออกมาจากรถ เพื่อเริ่มมาช่วยงาน สปอนเซอร์ที่สนับสนุนงานเริ่มทยอยเข้ามา ทั้งโออิชิ รพ.นครธน บ้านเพมาราธอน ฟอร์รันเนอร์ เริ่มจับจองพื้นที่
มิซูโน มาตั้งบูธ สินค้า ด้านล่างของโรงภาพยนตร์
พร้อมกับมาแจกบัตรส่วนลด 20% ให้กับนักวิ่งทุกท่าน
ซุ้มอาหารและน้ำดื่ม โดยสมาพันธ์เริ่มมาตั้งโต๊ะ
จนพื้นที่เริ่มเต็ม นักวิ่งเริ่มทยอยเข้ามาหน้างาน มีบางส่วน ก็มาสมัครหน้างานเพิ่มเติม นักวิ่งหลายท่าน เห็นเสื้อสต๊าฟที่ใส่อยู่ จึงอยากได้ พี่ย้งเลยตัดสินใจให้ขายหน้างานไปด้วย เสื้อแต่ละตัวที่ทำออกมา ไม่ได้ซีซั้วทำให้มันจบ แต่มันออกมากมันสมองและใจของผู้ออกแบบล้วนๆ
เมื่อถึงเวลาปล่อยตัว ได้รับความอนุเคราห์ะ จากทีมสกาย ดิจิตอล มาช่วยถ่ายทำภาพทางอากาศ ทำให้งานนี้แตกต่างจากงานวิ่งที่เคยประสบมา เสียดายที่วันนี้ไม่ได้วิ่ง เพราะต้องเป็นสต๊าฟที่หน้างาน โดยหน้าที่ดำเนินการสับเปลี่ยนเองโดยอัตโนมัติจากผู้รับเงินจากการจำหน่ายเสื้อ โอนให้น้องโก ไปดูแลแทน และตัวเองไปประสานงานเรื่องพื้นที่หน้างานกับเหล่าสปอนเซอร์ทั้งหลายแทน
งานวันนี้ถือว่าประสบความสำเร็จพอตัวและมีนัยยะในตัวเองมาก
เพราะถือว่า ทางสโมสร เป็นกาว ที่ทำให้ สสส ได้รู้จักกับ GTH กันจากงานนี้ และถือเป็นจุดเริ่มต้นของโครงการ "วิ่งสู่ชีวิตใหม่"
งานวันนี้จะไม่มีทางประสบความสำเร็จไปได้ถ้าขาดความร่วมมือร่วมใจจาก
สสส , สมาพันธ์เดินวิ่งเพื่อสุขภาพไทย, ภาพยนตร์ รัก 7 ปี ดี 7 หน, GTH, ผลิตภัณฑ์มิซูโน่, ร.พ. นครธน, โออิชิกรุ๊ป, เทสโก้ โลตัส, บ้านเพ มาราธอน,
ประมวลภาพ จากงาน Run on The Love