Race 101 Olympic Day 2012
งานนี้ไม่มีอะไรจะเอื้อนเอ่ย เพราะพูดไปก็เท่านั้น ไปวิ่งกันเฉยๆ ดีกว่า ท่ามกลางมหาชนที่คับขั่งไปเต็มถนน กับการเริ่มวิ่งที่เวลา 7.20 นาที โอ้ว อยากจะบอกว่าวอร์ม ตั้งแต่ตี 5 ครึ่ง จนหมดก็อก
วันนี้ขออินดี้ สักวัน
ระยะจริง 8.53 กม
ใช้เวลา 46.22 นาที
วันอาทิตย์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2555
วันอาทิตย์ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2555
Race 100 Bangkok post
Race 100 Bangkok post
วันนี้ได้มีโอกาส มาวิ่งที่งาน บางกอกโพสต์ เป็นครั้งแรก ซึ่งปีนี้ได้ อเมซิ่งฟิวด์ มาเป็นผู้ดำเนินการจัดการแข่งขัน โดยระยะที่ทำการแข่งบัน มี 10K 4.5K และ 3K วันนี้มาแบบไม่ได้ตั้งใจเพราะเมื่อวานเพิ่งไปวิ่งมา ลังเลอยู่หลายเพลา เพราะงานนี้ต้องสมัครล่วงหน้าครั้นจะให้ออกจากบ้านมาใหม่ก็ขี้เกียจออกมา
ได้แต่พร่ำเพ้อพรรณา ถึงความอยากของตัวเอง บนโซเี่ชี่ยลมีเดีย อยู่พักใหญ่ ก็ได้รับอนิสงค์จากพี่ชายใจดี โทรมาหาและแจ้งว่ากำลังจะไปแถวนั้น ถ้าจะไปวิ่งจะสมัครให้ มีหรือที่ข้าพเจ้าจะปฏิเสธน้ำใจดีดีแบบนี้ ขอบคุณพี่กิ๊บมา ณ ที่นี้ด้วยครับ
สำหรับระยะ 10K มีการใช้ชิฟ จับเวลา และต้องการสมัครล่วงหน้า ก่อน หนึ่งวัน สำหรับระยะอื่น สามารถสมัครได้ที่หน้างาน ข้าพเจ้ามาถึงงานเวลา 5:10 ก็เดินเข้าไปที่บริเวณจัดงาน อยู่ตรง โรงแรมเซ็นทารา ซึ่งมีการตั้งซ้มลม ซุ้มปล่อยตัว มากถึง 3 ซุ้ม
วันนี้จากการเดินสังเกต บริเวณงานโดยรอบ เต็มไปด้วยนักวิ่งหน้าใหม่ บางคนก็มากันเป็นทีมบริษัท บางคนก็มาเป็นคู่ มีชาวต่างชาติเยอะพอสมควร รวมถึงนักวิ่งหน้าใหม่ ๆ เท่าที่สังเกตว่ามาวิ่ง 5 KM กันเยอะ วันนี้ ก็ได้พบตากล้องที่มาเก็บภาพในงาน เช่น ดาบทอง จากบางขุนเทียน พีวัฒนาจากรัชมังคลา และพี่กบ พี่น้อง จาก แพทรันนิ่ง งานนี้ไม่มีการถ่ายภาพหน้าเส้นชัย และให้จองรูปในงานดังที่เคยเจอบ่อยๆ
สำหรับห้องน้ำ ไม่แน่ใจว่ามีรถสุขามาหรือป่าว เพราะข้าพเจ้า หนีไปเข้าห้องน้ำในโรงแรมแทน
หลังจากยืนรอพักใหญ่ กับการรับเสื้อกับพี่กิ๊บ ก็เกือบถึงเวลาปล่อยตัวแล้ว เพราะข้าพเ้จ้าสื่อสารสถานที่ไม่ดี ต่างคนต่างรอ ดีนะที่ตัดสินใจเดินเข้างานเพื่อหา ไม่งั้นอาจไม่มีเบอร์วิ่งติดก็เป็นได้ เมื่อติดเบอร์เรียบร้อยแล้ว จึงเดินหาซุ้มสำหรับการฝากของ
งานนี้ มีการแบ่งระยะการรับฝากของตามระยะทางของนักวิ่ง โดยแยก เป็นจุด 10KM 4.5KM และ เดิน 3KM ซึ่งเป็นรูปแบบที่ทางผู้จัดทำอยู่เสมอ ซึ่งเป็นการแยกประเภท ทำให้รับของคืนได้เร็วและสะดวกขึ้น บริเวณเวทีจัดงาน เนื่องจากสถานที่คับแคบไปนิด ทำไห้เกิดความไม่สะดวกที่นักวิ่งจะต้องเดินผ่านทางจากจุด รับฝากของไปเข้าที่จุดสตารท์ โดยบริเวณนั้นมีทางเดินอยู่นิดเดียว ทำให้เดินสะดุดกันไปหลายรายเลยทีเดียว แต่ผิดหวัง กับเสื้อ รู้สึกว่าไม่มีคุณภาพเลย เหมือนเผางานออกมา
การปล่อยตัว เป็นไปตามเวลาที่กำหนด ซึ่งออกสตารท์จากข้างโรงแรม แล้วเลี้ยวซ้ายมุ่งหน้าสู่แยกราชประสงค์ และเลี้ยวขวา มุ่งหน้าสู่ถนนสีลม โดยการปิดการจราจรในส่วนนี้ ทำได้ดี ซึ่งอาจจะเป็นไปได้ว่านักวิ่ง ยืดเลนถนน ทุกเลนไว้ทั้งหมด โดยปิดการจราจรทั้งถนนไว้ จนถึงแยกบริเวณ สวนลุมตัดกับสีลม จึงมีการคืนช่องจราจรให้ กับรถที่ใช้ถนนกันอย่างปกติ
สำหรับป้ายบอกระยะทางนั้นค่อนข้างวางได้ใกล้เคียง ต่างกันไม่เกิน 50 เมตร ต่อจุด ซึ่งทำให้นักวิ่งสามารถ ประเมินความเร็วของตนเองได้ อย่างแม่นยำมากขึ้น เมื่อวิ่งมาถึงถนนสีลม เส้นทาง ก็ให้วิ่งเลี้ยวซ้ายผ่านถนนคอนแวนต์ ณ จุดนี้ นักวิ่งยังยืดถนนทุกเลน ในการวิ่งอยู่ จนกระทั่งเลี้ยวซ้ายออกสู่ถนนสาทร จึงได้มีการคืนเลนจราจรให้กับรถปกติ
สำหรับเส้นทางวิ่งบนถนนสาทรนี้ นักวิ่ง วิ่งชิดซ้าย ตลอดเส้นทาง 1 ช่องจราจร แต่ไม่มีกรวย หรือเจ้าหน้าที่มากนัก ในการกำกับดูแลเส้นทาง ซึ่งนักวิ่งต้องดูแลและเตือนกันเอง ในเรื่องรถที่ขับเข้ามา มีการกระโดดบังเลน ขวางเลนรถ เพื่อนในนักวิ่งท่านอื่นวิ่งได้ในบางครั้ง
จุดให้น้ำทุกจุดของงานนี้ ต่อหนึ่งจุด มีการจัดโต๊ะ ไว้ 4 โต๊ะเรียงกันไป จะได้ไม่รุม สำหรับให้บริการน้ำวิ่ง ซึ่งในจุดที่ 3 ได้มีเกลือแร่ด้วย เมื่อวิ่งสุดถนนสาทร ก็วิ่งตรงผ่านแยก วิ่งขนานกับสวนลุม โดยใช้เส้นทางถนนวิทยุ วิ่งไปจนสุดที่ถนน และเลี้ยว ซ้าย เพื่อมุ่งหน้าไปที่ถนนเพชรบุรี
ในจุดนี้เอง ถือว่าเป็นจุดที่ด้อยที่สุดในเรื่องการจราจรที่ข้าพเจ้าพบด้วยตัวเอง เนื่องจากไม่มีเจ้าหน้าที่ กั้นรถที่มาจากทางตรงเลย นักวิ่งต้องวิ่งคู่กันไปกับรถ ซึ่งค่อนข้างอันตรายพอสมควร ซึ่งเมื่อวิ่งมาถึง แยก บริเวณธนาคารไทยพาณิชย์ จึงเริ่มจะมีการตั้งกรวย กั้นทาง
ซึ่งจุดนี้น่าจะเป็นจุดร่วมระหว่าง 10KM และ 4.5KM จากนั้นก็วิ่งตรงมาเรื่อยๆ ถึงแยกเพชรบุรีตัดพญาไท จึงเลี้ยวซ้าย และวิ่งข้ามสะพาน และเลี้ยวซ้ายอีกครั้ง เพื่อเข้าสู่ถนนพระราม 1 และวิ่งตามเส้นทางเข้าสู่ บริเวณจัดงาน ซึ่งปัญหาของ ข้าพเจ้าในวันนี้ คือเส้นทางที่วิ่งในวันนี้ นั้นส่วนใหญ่ วิ่งผ่านใต้รางรถไฟฟ้า ประมาณ 30 ของเส้นทางวิ่ง
ซึ่งทำให้ระยะทาง GPS ในแต่ละเครื่องคาดว่าคงจะคลาดเคลื่อนมาก โดยเฉพาะผู้ที่ใช้โทรศัพท์จับ จะคาดเคลื่อนมาก กว่าปกติ ซึ่งงานนี้ จะบอกว่า ซุ้ม มีเยอะ จน แอดมินมึน ทีแรกว่าจะวิ่งชิว แต่วิ่งไปเกือบถึงเส้นชัย เห็นคุณมอร์ ภรรยาคุณพี่เสี่ยดำ เลยลองไล่เล่นๆ ปรากฏว่าทันเฉยเลย ชนะผู้หญิงอีกแล้วดีใจจุงเบย พอวิ่งผ่านซุ้มแรก เห็นช่างภาพถ่ายภาพอยู่คิดว่าถึงแล้ว กดนาฬิกาหยุดเลย ตอนนั้นได้ที่ระยะ 10.24 กม. ซึ่งมารู้ตัวอีกที ก็ตอนโดนแซว ถึงวิ่งต่อ ซึ่งก็มีระยะทางเพิ่มประมาณ 100 เมตร โดยรวมงานนี้ ระยะน่าจะอยู่ที่ประมาณ 10.34 กม
ที่เดินไม่ใช่หมด แต่เข้าใจผิด คิดว่าถึงแล้ว จากซุ่มลม |
บรรยากาศหลังเส้นชัย ก็เป็นเหมือนงานทั่วๆ ไป คือมีจุดให้บริการ น้ำดื่ม เกลือแร่ ต่างๆ ที่เข้ามาสนับสนุนงาน โดยผู้จัดการได้จัดอาหารไว้คนละชุดให้กับนักวิ่งทุกท่านที่ติดเบอร์ ภายในถุงก็มี โดนัท เบอร์เกอร์ และน้ำดื่ม
โดยรวมในการจัดงานครั้งนี้ อยู่ในเกณฑ์ดี แต่ควรปรับปรุง เรื่องการให้ความสำคัญกับเรื่องความปลอดภัยสำหรับนักวิ่ง สำหรับเส้นทางบางจุดเพิ่มขึ้น
สำหรับการวิ่งในเมืองหลวง ที่เราคงไม่สามารถปิดการจราจรได้มากกว่านี้ ถือว่า งานนี้เป็นอีกงานที่หน้ามาเยือน แต่นักวิ่ง อาจจะต้องใช้ความระมัดระวังเพิ่มขึ้น แต่ปีหน้าถ้ามีงานอื่น ข้าพเจ้าขอวิ่งที่อื่นดีกว่า 5555+
วันเสาร์ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2555
Race 99 รถไฟฟ้ามาหานะเธอ
Race 99 รฟม มินิมาราธอน
ทำงานอยู่แถวพระราม 9 มาซะนาน ส้มตำไก่ย่าง ก็มากินแถวนี้บ่อย แต่ยักไม่เคยได้วิ่งแถวนี้สักที
นี่เป็นครั้งแรกที่ได้มาเหยียบถิ่นนี้ เป็นงานที่ประหลาดกับการจัดงานวันเสาร์ น้อยรายนักทีจะเลือกจัดงานในวันนี้
โปรแกรมนี้ไม่ได้มีอยู่ในหัวสมองเลย เพราะจริงๆ ตั้งใจจะไปวิ่งงานวันพรุ่งนี้ ที่บางกอกโพสต์ เพื่อยลโฉมออแกไนซ์รายใหม่ที่มาจัดแทนเจ้าประจำเจ้าเดิม แต่ด้วยเห็นว่าเป็นสนามใหม่ จึงอยากไปลองพิสูจน์เส้นทาง ว่าเส้นทางภายใน รฟม เป็นอย่างไร จึงตัดสินใจชวนเพื่อนซี้ มาร่วมทดสอบด้วย
เมื่อเดินทางมาถึงบริเวณจัดงาน ต้องประหลาดใจเพราะว่างานเงียบมาก ถึงมากที่สุด กว่าจะได้จอดรถ ก็เป็นอีกฟากฝั่งหนึ่งของงาน ซึ่งมืดมาก ในจุดจอดรถเมื่อไปถึงก็พบรถ ตกลงไปในร่องระบายน้ำขนาดใหญ่ เห็นนักวิ่งหลายๆ คนกำลังช่วยกันงัดและยกรถขึ้นออกมาจากร่องนั้นกันยกใหญ่
งานนี้เป็นอีกงานที่ได้รับการอุปการะเบอร์จาก รพ.นครธน ในการมาร่วมวิ่ง
ในระหว่างการวอร์มนั้น ขอบอกว่าอิจฉามากๆ กับเจ้าหน้าที่ที่นี่ ที่มีถนนลาดยางเป็นอย่างดี วิ่งแล้วรู้สึกนุ่มเท้ามาก ทำให้คิดเป็นตรรกะ ว่าสนามทั้งหมดจะเป็นสนามลาดยางแบบนี้ การวอร์มเส้นทางภายในจุดจอดรถ เป็นไปอย่างมีความสุข จนคิดไปว่าไม่น่าเตรียมรองเท้าซ้อมมาวิ่งที่นี่เลย เพราะถ้าใช้รองเท้าแข่งมาวิ่งคงจะทำเวลาได้ดี แน่ๆ
จากที่ตอนแรกคิดว่าคนมาร่วมงานน้อย เพราะเป็นวันเสาร์ ความคิดนั้นกับตาลปัตร เมื่อผู้เข้ามาร่วมงานทยอยกันเข้ามาอย่างมากมาย ซึ่งทราบภายหลังว่าวันนี้ ทาง รฟม มีการจัดวิ่งภายในระยะ 4 กม.ด้วย งานนี้จึงเต็มไปด้วยหนุ่มสาวน่าตาจิ้มลิ้มเต็มไปหมดทั้งงาน จนอยากจะใส่แว่นวิ่งเลยจะได้มองเห็นชัดๆ
การปล่อยตัว ช้า กว่ากำหนดการไป 7 นาที จากพิธีการต่างๆ บนเวที ซึ่งก็ทำให้เครื่องดับได้เหมือนกัน แต่ดีที่ว่าระหว่างรอ มีการยืดเหยียด และกระตุ้นร่างกายตลอดเวลา สิ้นเสียงปล่อยตัว เอาอีกแล้ว เพื่อนผม กระชากหนีอีกแล้ว พยายามวิ่งตาม เพื่อไม่ให้สถิติห่างไปกว่าเดิม เรายิ่งเร่งตาม บอยก็เหมือนยิ่งหนี ทั้งที่จริงเค้าไม่เห็นเรา จนมารู้ตัวอีกทีว่า โดนหลักให้ใช้ไกลโคเจน จนหมดแรงที่ กม ที่ 4 ซึ่งเกือบถึงระยะกลับตัว สำหรับเส้นทาง ที่ปล่อยตัว เป็นเส้นทางภายในและวิ่งออกมาด้านนอก ที่ถนนเทียนร่วมมิตร และมากลับตัวก่อนถึงแยกถนนวัฒนธรรม ซึ่งระยะตอนกลับตัว อยู่ที่ 4.7 กม เลยพาลคิดไปว่าเอาอีกแล้วระยะไม่ถึงอีกแล้วงานนี้
สำหรับเส้นทางด้านนอก ถือว่าเป็นงานที่สมบูรณ์ในด้านความปลอดภัยมาก จากถนนที่รถวิ่งไม่ค่อยเยอะอยู่แล้วในเช้าวันเสาร์ บวก กับความใส่ใจของเจ้าภาพ ในการตั้งกรวย ตลอดเส้นทางวิ่ง และมีเจ้าหน้าที่ดูแลตลอดเส้นทาง ทำให้มั่นใจถึงความปลอดภัยในชีวิต ระหว่างการวิ่งในงานนี้ได้เป็นอย่างดี
จุดให้น้ำดูดีขึ้นมากเมื่อเทียบกับการจัดงานก่อนๆ มีการตั้งจุดให้น้ำ 3 โต๊ะ ทำให้การจราจรไม่ติดขัด
หลังจากกลับตัวแรงข้าพเจ้าหมด เพราะโดนหลอกไปในช่วงแรกงานนี้เลยตีประคองอย่างเดีย จนมาถึงจุดที่ให้เข้าเส้นชัย และคิดอยู่ในใจว่าเจ้าภาพงานนี้ จะมามุกไหนกับระยะที่ไม่ครบ ตลอดเส้นทางการวิ่งที่เหลือ จนมาถึงสะพานสุดท้าย ก่อนเข้าเส้นชัย เริ่มมองเห็นนักวิ่งหลายต่อหลายท่านเร่งสปีดเต็มที่เพื่อส่งแรงขึ้นสะพาน และหวังจะปล่อยจังหวะไหลเข้าเส้นชัย
ข้าพเจ้ารู้สึกตะหงิดๆ ยังไงไม่ทราบจึงไม่เร่ง วิ่งไปเรื่อยๆ เมื่อลงสะพานดังกล่าว ก็ได้พบเจ้าหน้าที่ ตะโกน ชี้ ให้เลี้ยวซ้าย ไปกลับตัวตรงโน้น นักวิ่งที่สปีดมาถึงกับหยุดและเดินทันที เพราะอารามที่เข้าใจว่าถึงแล้ว จึงอัดหมดถังที่มี กลายเป็นเครื่องน็อคในที่สุด ซึ่งเท่าที่สังเกตุมีกลุ่มบุคคลประเภทนี้อยู่มากเลยทีเดียว
แหม สนามวอร์มเนี้ยยอดเยี่ยม ไหงวิ่งจริงหลอกให้ไปวิ่งคอนกรีตอีกแล้ว
หลังจากเปลี่ยนองค์ทรงเครื่องเรียบร้อยก็ได้เวลาล่าเหยื่อ เอ้ยหาของกินที่เต็มไปด้วยอาหารที่ทางเจ้าภาพนำมาบริการนักวิ่ง ทั้งแซนวิส ข้าวมันไก่ กระเพราะปลา ข้าวต้ม เอ็มสปอร์ต เกลือแร่ไอมิกซ์ ผลไม้ต่างๆ แตงโม เงาะที่มีเพียงพอต่อนักวิ่ง
นั่งกินไป นั่งดูสาวๆ ไป ช่างเป็นอะไรที่สุขใจเช่นนี้ งานนี้สาวๆ เยอะมากจริงๆ ระดับ บีบวกถึงเอ เลยจะบอกให้ จนบอกเพื่อนว่า ปีหน้าต้องมาอีก
ไช้ ใช้เวลา 53.20 นาที
บอย ใช้เวลา 50.06 นาที
ไช้ 13 บอย 21 ห่างไกลออกไปเช่นเคย
วันอาทิตย์ที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2555
Race 98 ตรีมิตร3
Race 98 ตรีมิตร3
สนามนี้ตั้งแต่แข่งกับบอยมา ยังสะกดคำว่าแพ้ไม่เป้น แต่ในครั้งนี้ก่อนมาวิ่งที่นี่ ทุกสิ่งทุกอย่างดูไม่เป็นใจอะไรเลย เจ็บแล้วเจ็บอีก เดี่ยวก็เข่า เดี่ยวก็ส้น แต่หลังจากจัดงานดูหนังไป เริ่มมีเวลากลัีบมาซ้อมอีกครั้ง และหวังว่าการซ้อมจะช่วยพัฒนาให้ความสามารถสูงขึ้นตามระยะทางที่วิ่งเพิ่มขึ้นด้วย
สนามวันนี้ เปลี่ยนไปไม่ได้ใช้เส้นทาง ยิงตรงไปกลับเช่นเดิม เนื่องจากถนนมีการปรับปรุง ซึ่งเมื่อถนนเป็นแนวคดนี่ไม่ใช่ของหวานอย่างที่แล้วๆ มา
การวางแผนการวิ่งวันนี้ ใจก็อยากแข่ง อีกใจก็อยากวิ่งเฉยๆ สุดท้ายก็ปล่อยตัวชะตากรรมของตัวเอง เพราะว่าก่อนหน้านี้ที่จะมาตั้งใจมาวิ่งเก็บระยะสนามอย่างเดียว การปล่อยตัว เลื่อนจากกำหนดการเดิมไปพอสมควร เพราะมีขั้นตอนหลายอย่างในวันนี้ 6:08 เป็นเวลาที่เหล่าพลพรรคนักวิ่ง กระชากอัตราการเต้นหัวใจ ให้เร่งเร้าขึ้น แต่ด้วยปริมาณนักวิ่งที่มากันในวันนี้มีล้นหลาม ทั้งหน้าใหม่ หน้าเก่า ทำให้กว่าจะขับเคลื่อนตัวออกไปได้ ก็ใช้พละกำลังพอสมควร ซึ่งเมื่อวิ่งไปได้ระยะหนึ่งที่ร่างกายรู้สึกร้อน กลับพบว่า อาการเข่าที่ขัดๆ มา ออกอาการเจ็บขึ้น จึงทำให้ต้องเบาเครื่องลง และประคองด้วยท่าวิ่งที่ไม่ทำให้จุดนั้นเจ็บเพิ่มขึ้น เพื่อนคนแล้วคนเล่าที่เคยเร่งแซงได้ กับหายวับไปกับตาไม่เห็นแม้แต่เงา แต่ทำยังไงได้ เมื่อมีอาการก็ต้องประมาณตน
แต่พอวิ่งไปได้ 5 กม เหมือนอาการจะดีขึ้น จึงเริ่มเร่ง ด้วยความหวังว่า น่าจะไล่ใครสักคนในกลุ่มได้ ซึ่งคงเป็นใครไปได้ นอกจาก อ.ป้อม เห็นความมุ่งมั่นของเธอตั้งแต่พัทยามาราธอน จนงานอดิดาส แล้วก็อดทึ่งไม่ได้ หลายงานแล้วที่เราวิ่งตามไม่สามารถแซงได้ ครั้งนี้ อ. ได้หัวลากนำเข้าจากภาคใต้ มาช่วยกระชากวิญญาณ ซึ่งความพยายามของข้าพเจ้าเกือบจะสำเร็จในจินตนาการเท่านั้น เพราะไม่สามารถไล่ให้มาเห็นหลังได้เลย เพราะหวังจากเริ่มวิ่งได้ ที่ กม ที่ 5 ก็มาจอดป้ายที่ กม ที่ 8 อีกครั้ง เข่าเริ่มเจ็บ อาการรองช้ำเริ่มรุนแรงขึ้น จึงทำให้ต้องเบาลง และหลังจากเบาเครื่องและวิ่งมาถึง จุดกลับตัวใต้สะพาน จึงได้พบคู่แข่งหลายคน รวมทั้ง คุณเธอด้วย ซึ่งอยู่คนละฟากฝั่งฟ้า โดยกลัีบตัวไปเรียบร้อยแล้ว ในขณะที่เราอยู่อีกฝั่ง ส่วนบอยไม่ต้องพูดถึง ไม่มีเงามาให้เห็นแม้สักเสี้ยวหนึ่งเลย
สรุปการวิ่งวันนี้ แย่ ในภาพรวม คงถึงคราที่ต้องหยุดวิ่ง เพื่อพักจริงๆ จังๆ เสียที
ระยะทางจริงประมาณ 10.39 กม
ไช้ ใช้เวลา 58.09 นาที
บอย ใช้เวลา 54.04 นาที
ไช้ 13 บอย 20 ห่างไกลไปทุกที
สนามนี้ตั้งแต่แข่งกับบอยมา ยังสะกดคำว่าแพ้ไม่เป้น แต่ในครั้งนี้ก่อนมาวิ่งที่นี่ ทุกสิ่งทุกอย่างดูไม่เป็นใจอะไรเลย เจ็บแล้วเจ็บอีก เดี่ยวก็เข่า เดี่ยวก็ส้น แต่หลังจากจัดงานดูหนังไป เริ่มมีเวลากลัีบมาซ้อมอีกครั้ง และหวังว่าการซ้อมจะช่วยพัฒนาให้ความสามารถสูงขึ้นตามระยะทางที่วิ่งเพิ่มขึ้นด้วย
สนามวันนี้ เปลี่ยนไปไม่ได้ใช้เส้นทาง ยิงตรงไปกลับเช่นเดิม เนื่องจากถนนมีการปรับปรุง ซึ่งเมื่อถนนเป็นแนวคดนี่ไม่ใช่ของหวานอย่างที่แล้วๆ มา
การวางแผนการวิ่งวันนี้ ใจก็อยากแข่ง อีกใจก็อยากวิ่งเฉยๆ สุดท้ายก็ปล่อยตัวชะตากรรมของตัวเอง เพราะว่าก่อนหน้านี้ที่จะมาตั้งใจมาวิ่งเก็บระยะสนามอย่างเดียว การปล่อยตัว เลื่อนจากกำหนดการเดิมไปพอสมควร เพราะมีขั้นตอนหลายอย่างในวันนี้ 6:08 เป็นเวลาที่เหล่าพลพรรคนักวิ่ง กระชากอัตราการเต้นหัวใจ ให้เร่งเร้าขึ้น แต่ด้วยปริมาณนักวิ่งที่มากันในวันนี้มีล้นหลาม ทั้งหน้าใหม่ หน้าเก่า ทำให้กว่าจะขับเคลื่อนตัวออกไปได้ ก็ใช้พละกำลังพอสมควร ซึ่งเมื่อวิ่งไปได้ระยะหนึ่งที่ร่างกายรู้สึกร้อน กลับพบว่า อาการเข่าที่ขัดๆ มา ออกอาการเจ็บขึ้น จึงทำให้ต้องเบาเครื่องลง และประคองด้วยท่าวิ่งที่ไม่ทำให้จุดนั้นเจ็บเพิ่มขึ้น เพื่อนคนแล้วคนเล่าที่เคยเร่งแซงได้ กับหายวับไปกับตาไม่เห็นแม้แต่เงา แต่ทำยังไงได้ เมื่อมีอาการก็ต้องประมาณตน
แต่พอวิ่งไปได้ 5 กม เหมือนอาการจะดีขึ้น จึงเริ่มเร่ง ด้วยความหวังว่า น่าจะไล่ใครสักคนในกลุ่มได้ ซึ่งคงเป็นใครไปได้ นอกจาก อ.ป้อม เห็นความมุ่งมั่นของเธอตั้งแต่พัทยามาราธอน จนงานอดิดาส แล้วก็อดทึ่งไม่ได้ หลายงานแล้วที่เราวิ่งตามไม่สามารถแซงได้ ครั้งนี้ อ. ได้หัวลากนำเข้าจากภาคใต้ มาช่วยกระชากวิญญาณ ซึ่งความพยายามของข้าพเจ้าเกือบจะสำเร็จในจินตนาการเท่านั้น เพราะไม่สามารถไล่ให้มาเห็นหลังได้เลย เพราะหวังจากเริ่มวิ่งได้ ที่ กม ที่ 5 ก็มาจอดป้ายที่ กม ที่ 8 อีกครั้ง เข่าเริ่มเจ็บ อาการรองช้ำเริ่มรุนแรงขึ้น จึงทำให้ต้องเบาลง และหลังจากเบาเครื่องและวิ่งมาถึง จุดกลับตัวใต้สะพาน จึงได้พบคู่แข่งหลายคน รวมทั้ง คุณเธอด้วย ซึ่งอยู่คนละฟากฝั่งฟ้า โดยกลัีบตัวไปเรียบร้อยแล้ว ในขณะที่เราอยู่อีกฝั่ง ส่วนบอยไม่ต้องพูดถึง ไม่มีเงามาให้เห็นแม้สักเสี้ยวหนึ่งเลย
สรุปการวิ่งวันนี้ แย่ ในภาพรวม คงถึงคราที่ต้องหยุดวิ่ง เพื่อพักจริงๆ จังๆ เสียที
ระยะทางจริงประมาณ 10.39 กม
ไช้ ใช้เวลา 58.09 นาที
บอย ใช้เวลา 54.04 นาที
ไช้ 13 บอย 20 ห่างไกลไปทุกที
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)