วันอาทิตย์ที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2555

Race 93 ครูอังคณา

Race 93 เรื่องนี้ถึงครูอังคณาแน่


จากวลี "เรื่องนี้ถึงครูอังคณาแน่" อันเรื่องชื่อเมื่อตอนต้นปี ของเจ้าโต๊ด มาบัดนี้ ข้าพเจ้าได้มาเยือนถิ่นดังในตำนานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ที่ได้มาเหยียบสนามนี้ ที่จัดโดยพี่นิพนธ์ บรรยากาศบ้านๆ เป็นกันเอง ของนักวิ่ง  มันช่างสร้างแรงกระตุ้นในการวิ่งเหลือคณา แต่อาการบาดเจ็บก็ยังคงมีติดตัวอยู่ตลอด จนทีแรกเดิมคิดว่าจะวิ่งแค่ฟันรัน เพราะรับปากมาวิ่งพร้อมเพื่อนแล้ว แต่สุดท้้าย การแข่งขันก็ยังเข้มข้นเสมอ  คู่หูวันนี้มีอาการป่วย น้ำมูกไหล  ส่วนตัวข้าพเจ้าเจ็บรองช้ำ ฤา นี่จะเป็นกีฬาเฟสปิคเกมส์กันแน่


หลังจากสมัครวิ่ง และทดสอบการวิ่งโดยการวอร์มประมาณ 10 นาที ก็ค่อนข้างแน่ใจว่าสามารถวิ่งได้แน่จึงไปเตรียมเข้าจุดเพื่อปล่อยตัว แต่ด้วยความที่ออกมาช้า จึงทำให้ต้องไปอยู่ด้านหลังของจุดสตาร์ท และเมื่อสิ้นเสียงปล่อยตัว ได้เริ่มออกวิ่ง แต่กว่าจะฝ่าฝูงชนที่มีมาวิ่งกันอย่างคณานับ ก็ใช้เวลากว่า 5 นาที  เป็นระยะเกือบ 1 กม. จึงสามารถเร่งสปีดได้ วันนี้ตั้งใจประคองให้ pace อยู่ปริ่มขอบที่ 5 นาที ให้ได้ ซึ่งสามารถทำได้ แต่คู่หู คู่ฮา ผมสปีดไปไกลแล้ว

เส้นทางยังคงเป็นเส้นทางเดิม เฉกเช่นเดียวกับปีก่อน สะพานก็ยังระยะทาง ความชันเท่าเดิม หาได้มีอะไรเปลี่ยนแปลง แต่สิ่งที่ต่างกัน สามารถจับได้จากมโนภาพเก่าๆ ที่ปีก่อน จุดกลับตัวท้ายสะพาน จะมีมโหรี มาขับกล่อมเสียงเพลง เพื่อกระตุ้น ซึ่งมาวันนี้ ข้าพเจ้าพยายาม ใช้หูฟังตั้งแต่ขึ้นสะพาน จวบจนเดินทางสู่ปลายทาง พยายามใช้โสตที่มีอยู่ในการเสาะแสวงหา แหล่งบันดาลใจในปีก่อน แต่ก็ยังมิวาย พลาดสิ่งนั้นไป ฤา ว่าปีนี้ เค้าจะหมดงบประมาณ

หลังจากการกลับตัวอย่างเหงาหงอย ก็ทำให้สติสมาธิกลับมาสู่ที่ตัวอีกครั้ง กับภาพชายนักวิ่งที่วิ่งผ่านไปก่อนเราขึ้นสะพานได้ปรากฏกายขึ้น ระยะทางความยาวของสะพานนี้ อยู่ที่ประมาณ 500 เมตร นั้นหมายความว่า  ระยะที่จะต้องลดทอนลงมา ใน 5.5 กม ที่เหลือ คือ 1 กม ที่จะต้องพิชิตให้ได้

เปรียบเสมือน การวิ่งแข่ง คนหนึ่งวิ่ง 5.5 กม อีกคนวิ่งแค่ระยะ 4.5 กม. เพื่อจุดหมายปลายทางเดียวกัน

เพียงแต่ว่าชายที่ต้องวิ่ง 5.5 กม. นั้นยังมีพลังแฝงอยู่อีกมาก  ส่วนอีกคนไม่สามารถรู้ได้เลย อีกครึ่ง ชม. ต่อจากนี้ ถึงจะรู้กัน  นั่นคือสิ่งที่คิดเล่นๆ เพราะไม่คิดว่า คู่หู จะวิ่งแรงขึ้น หรือ หล่นลง  แต่ตัวข้าพเจ้าก็จะยังคงวิ่งด้วยจังหวะเดิม คือ 5 นาที เพื่อไม่ให้ภาระนี้หนักเกินไปสำหรับขาคู่น้อยๆ ที่ได้รับบาดเจ็บอยู่

การวิ่งบนถนนซีเมนต์ เป็นอะไรที่เลี่ยงได้ก็อยากเลี่ยงมาก เพราะถ้าอากาศร้อนมีแดดจัด พื้นจะยิ่งร้อน และทำให้เวลาวิ่งรู้สึกร้อนฝ่าเท้าอย่างมาก

ในที่สุด ข้าพเจ้าก็สามารถไล่มาทันจนได้ที่ กม.ที่ 10  แต่โดนคู่ปรับ ชวนวิ่งด้วยกัน เพราะมึนจากพิษไข้ (หารู้ไม่ถ้าเ้ข้าพร้อมกันข้าพเจ้าชนะ เพราะข้าพเจ้าออกตัวที่หลังเกือบ 10 วินาที )

ซึ่งก็สามารถเข้าเส้นชัยได้พร้อมกันตามที่คาด แต่ข้าพเจ้าชนะนะจ๊ะ  เรื่องนี้ถึงหูครูอังคณาแน่

ระยะ จริง 11.13
ไช้ ใช้เวลา 56.27 นาที
บอย ใช้เวลา 56.35 นาที

ไช้ 12  บอย  17

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น