วันจันทร์ที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2555

Race 108 ช็อป นครธน

Race 108 นครธน มินิมาราธอน ครั้งที่ 5


ช่างเป็นเรื่องน่าบังเิอิญจริงๆ กับ Race ที่ 108 นี้ ที่ไปพ้องกับ ร้านสะดวกซื้อ 108 ช๊อป ซึ่งในงานนครธนนี้ ไม่ได้เป็นสปอนเซอร์งานแต่อย่างใด แต่เป็นเพราะ ร้านค้านี้ ตั้งอยู่บริเวณจุดสตาร์ทที่ใช้ทำการปล่อยตัวเท่านั้นเอง

นครธนมินิมาราธอนครั้งที่ 5 นี้ นับเป็นครั้งที่ 4 ที่ข้าพเจ้ามีส่วนร่วม ซึ่งสถิติที่ผ่านมาในแต่ละครั้งมีดังนี้

10/12/52    1:12:05
10/12/53    0:56:57
10/12/54    0:53:46
10/12/55    ??????

จากสถิติที่ผ่านมาทำให้รู้ว่าสำหรับงานนี้ กับระยะทางเดิม เวลานั้นดีขึ้นเรื่อยๆ โดยวันนี้ตั้งเป้าหมายการวิ่งให้ ได้ประมาณ 50 นาที

สายฝนโปรยปรายมาเมื่อตอนตี 4 ทำให้บรรยากาศดีขึ้น เย็นขึ้น แต่ก็แลกด้วยความหวาดเสียวว่าจะตกไม่หยุด อาจทำให้งานกร่อยได้   ก่อนออกจากบ้านตัดสินใจอยู่นานกับการเลือกกางเกงมาใส่วิ่งวันนี้ เดิมทีจะใส่ CW-X มาวิ่งเพื่อ Save เข่าตัวเอง แต่อีกใจก็คิดว่าระยะสั้นๆ ดูออกจากเวอร์ไป คิดไปคิดมา จึงใส่ขาสั้นมาวิ่งเหมือนเดิม แต่แฝงไปด้วยความกังวลใจว่าเข่าจะเจ็บขึ้นมาอีก

มาถึงงานเดิมทีจะจอดรถ ที่สวนเซ็นทรัลปาร์ค  แต่ดูลักษณะแล้วน่าจะมีพื้นที่จอดจึงขับไปจอดบริเวณงาน  วันนี้พา น้อง และหลานอีก 2 คนมาร่วมงานด้วย

เมื่อมาถึงบริเวณงานจึงเข้าไปในตัวโรงพยาบาล เพื่อสมัครเพิ่ม ในส่วนผู้ติดตาม และรับเสื้อ งานนี้น่ารักมาก เพราะเสื้อที่แจกในงาน มีถึงขนาด SSS ด้วย ทำให้เด็ก 7 ขวบ สามารถใส่ได้  หลังจากที่พาหลานๆ ไปวิ่งมาหลายๆ งาน เสื้องานวิ่งที่ได้มามักจะต้องยกให้คนอื่นอยู่ร่ำไปเพราะใส่ไม่ได้

ติดตามงานให้ผู้ติดตามแล้ว จึงต้องมาปฏิบัติหน้าที่ของตัวเองบ้าง เพราะปัจจุบันยังไม่มีเบอร์วิ่ง เพราะได้สมัครล่วงหน้าไปนานแล้ว และฝากบอย รับเบอร์ตองมาให้ (555)

ซึ่งปีนี้ได้หมายเลข 30-49  ว้า ไม่ได้เบอร์ตอง

จากนั้นก็เริ่มมาวอร์มเบา ๆ ด้านหลังที่บริเวณซุ้มตั้งอาหาร ซึ่งเป็นที่วอร์มประจำ ซึ่งในช่วงแรกก็เริ่มวอร์มเบาๆ ได้ 1 กม จึงมายืดเหยียด ซึ่งวันนี้มัวแตุ่คุย เลยมีเวลายืดเหยียดน้อยไปนิด

จากนั้นก็มาวิ่งสไตรค์ ยืดๆ อยู่ประมาณ 5-6 เที่ยว จึงได้เวลาปล่อยตัว จึงเดินกลับไปเช็คอิน และรออยู่ที่จุดสตาร์ท

ประสบการณ์ 3 ครั้งที่ ผ่านมา ทุกครั้งจะเห็นนักวิ่งกระโดดข้ามไปอีกฝั่งของซุ้มปล่อยตัว ซึ่งคราวนี้ข้าพเจ้าขอทำบ้างเพราะถ้าอยู่จุดนี้จะไหลมากกว่า วิ่งผ่านซุ้ม  (ถ้ามีชิฟ ทำไม่ได้นะครับ)

ยังไม่ถึงช่วงปล่อยตัว  ในขณะที่ อ.ญาณเดช กำลังกล่าววัตถุประสงค์ของงาน ทำให้มีเวลากับมายืดเหยียดเพิ่มเติม  ทำให้รู้สึกเส้นที่ตึง คลายลงมาก แต่ก็มิวายกังวล กับ อาการบาดเจ็บใต้ฝ่าเท้าเหมือนเดิม วันนี้ลองเปลือยขา ไม่พันผ้าวิ่งดู

5:57  เป็นเวลาปล่อยตัวจริง  สงสัยท่านประธานจะกะจังหวะการพูดให้จบ ไม่ลงตัว แล้วไม่มีใครคอยดูเวลาให้ด้วย ดีที่ไม่มีใครว่าอะไร

เมื่อเคลื่อนพลออกจากหน้าโรงพยาบาล การสปีดเพื่อฉกชิงตำแหน่งด้านหน้าได้เกิดขึ้น และสามารถแซงขึ้นนำได้เมื่อพ้นหน้าสำนักงานเขตบางขุนเทียน และประคองจังหวะการวิ่งที่ จังหวะ 4.30 / กม ซึ่งเป็นการวิ่งตามจังหวะการวิ่งของคุณน้อย กลุ่มโรงเหล็กที่ปกติวิ่งเร็วกว่าข้าพเจ้ามาก ส่วนบอยไม่ต้องห่วง ผมแซงมาแล้ว และวันนี้ตั้งใจ keep breath เพื่อประคองให้จบแบบนี้

สะพานแรกที่เจอ คือ สะพานข้ามคลอง ก่อนหน้าร้านส้มตำ เป็นเนินเล็ก ๆ จากนั้น ก็เลี้ยวซ้ายเพื่อเข้าสู่ซอยที่มุ่งหน้าสู่ถนนเอกชัย ก็เจอ สะพานข้ามคลองอีก 2 ครั้ง  ตอนนี้เรีี่ยวแรงยังดีอยู่ สะพานไม่มีผลต่อจังหวะการวิ่งเท่าใดนัก

หลังจากเลี้ยวซ้าย ออกถนน ก็เจอสะพานข้ามคลอง เป็นจุดที่ 4 อีกครั้ง และจากจุดนี้เลยไป 200 เมตร เป็นจุดให้น้ำ ซึ่งนักวิ่งหลายคนเข้าใจว่าเป็นจุดให้น้ำแรก จึงมีอาการโวยวาย ว่านักวิ่ง วิ่งฝั่งขวา เอาน้ำไปตั้งฝั่งซ้ายทำไม  โธ่ ลุงๆ ครับ นี่ไม่ใช่จุดให้น้ำจุดแรกครับ เพิ่ง วิ่งมา กิโลกว่าเองครับ

ซึ่งความจริงจุดให้น้ำนี้คือจุดให้น้ำสุดท้ายก่อนเข้าเส้นชัย ซึ่งหลังจากนี้ทุกคนคงร้องอ๋อกัน

ป้ายระยะบอกทางของงานนี้ มีการบอกทุก 1 กม. ทำให้สม่ำเสมอและที่สำคัญ เมื่อวิ่งเรียบร้อยแล้วมาทบทวน จะเห็นได้ว่า การวางป้าย และจุดให้น้ำสมบูรณ์แบบมาก ที่เป๊ะหมด ขอบคุณ สมาพันธ์เดินวิ่งเพื่อสุขภาพไทย ที่เป็นเจ้าหน้าที่สนามในวันนี้ ที่ทำได้ยอดเยี่ยม

พอพ้น กม. ที่ 2 ต้องเผชิญ กับ สะพานที่ชันที่สุดของวันนี้ กับระยะความยาว 600 เมตร ที่ในช่วงแรกคิดว่ายังมีแรงเหลือเฟือ ในการวิ่งขึ้น  จากที่พยายามยามวิ่ง ตาม พี่กบเคโระมา 2 กม. ก็ต้องปล่อย เพราะพี่เค้าจังหวะเร็วกว่าเราเยอะ เลยต้องหาเป้าหมายใหม่ ในการวิ่งเกาะ  ซึ่งเมื่อลงสะพานมา ก็เจอ พี่สมาน วิ่งอยู่ จึงอาศัย วิ่งเกาะตามไปเรื่อยๆ ในช่วงนี้ นักวิ่งบางท่านที่เครื่องเข้าที่ ก็เริ่มสปีดหนีออกไป คนแล้วคนเล่า ไม่ว่าจะเป็นพี่สมัย พี่หมู สยามรันเนอร์หรือ คนที่รู้จักหลายคน

เมื่อพ้น กม.ที่ 4 หัวลากเหมือนจะหมด เพราะจังหวะเบาลง จึงต้องขออนุญาติ แซงเพื่อรักษาจังหวะวิ่งตัวเองเอาไว้

ครบ กม ที่ 5 สถิติ อยู่ที่ 23.47 นาที  เลยคิดว่า 50 นาทีที่ตั้งใจไว้ คงไม่ทะลุแน่ๆ เพราะรู้ว่า 5 กม หลังคงวิ่งไม่ได้ดีกว่า ช่วงแรกอยู่แล้ว เพราะช่วงหลังไม่ได้ฝึกวิ่งแบบ NS เลย

ระยะห่างจากบอยตอนนี้อยู่ที่ ประมาณ 200 เมตร รอที่จะพิฆาตได้เสมอ จึงพยายามเคาะลากจังหวะเดิมให้รักษาระยะห่างเอาไว้ จน กม ที่ 8 หลังจากที่ไม่มีเป้าให้วิ่งตาม ก็มาเจอ พี่บุญหนาและสมาชิกชมรมกลุ่มโรงงานอินเตอร์ จึงพยายามประคองวิ่งประคองตาม ซึ่งขอบอกว่าลากเลือด ยิ่งจังหวะลงสะพาน เค้ายิ่งใส่กัน แต่ความพยายามดร๊าฟ ก็ยังไม่หมด ยังสามารถเกาะติดได้ทุกฝีก้าว

จนกระทั่งจุดกลับตัวหลังสะพาน  เรี่ยวแรงกลับมีเพิ่มขึ้น หลังจากจุดให้น้ำจุดสุดท้าย ได้นำน้ำ 2 แก้ว ราดดับความร้อน บนศรีษะ ทำให้รู้สึกเย็นหัวลง  พี่หนาส่งสัญญาณให้ไปเลย ข้าพเจ้าจึงสปีด หวังว่าจะทำสถิติให้ต่ำกว่า 51 นาที ให้ได้ เพราะ 50 นาที นี่ 500 สุดท้าย ต้องวิ่ง  2 นาที ซึ่งทำไม่ได้แน่นอน

3 นาที เป็นการวิ่งที่สบายๆ มีผ่อน เพื่อถ่ายรูปเป็นระยะๆ แต่ก็เกือบเข้าเส้นไม่ทัน เวลาจบหวุดหวิดกับความต้องการเลย

ระยะทางจริง  10.59 กม

ไช้   ใช้เวลา 50:59 นาที
บอย  ใช้เวลา  52:51 นาที

ไช้ 15   บอย 25

ใกล้เข้ามาอีกหน่อยแล้ว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น