วันเสาร์ที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2555

Race 109 ฮาล์ฟ อินเตอร์

Race 109 ไทยแลนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล ฮาล์ฟ มาราธอน ครั้งที่ 2

ใต้สะพานพระราม 8 ในเวลา 5 นาฬิกา โดยปกติคงมีแค่เพียงแสงสาดส่องจากไฟทาง และสปอร์ตไลท์ที่ส่องย้อนกลับไปที่สลิงของสะพาน บวกกับความเงียบสงัดจนได้ยินเสียงแม่น้ำเคลื่อนตัวในเจ้าพระยา

แต่ในวันนี้  ปรากฏการณ์ ในวงการวิ่งยังมีต่อเนื่องหลังจากกรุงเทพฯ มาราธอน ที่ผ่านมา ทำสถิติ คนมาวิ่งเยอะที่สุด ตั้งแต่จัดงานมา  งานนี้ ก็ยังได้รับอานิสงค์เหมือนกัน  งานนี้มีการประกาศรับสมัครตั้งแต่ ครึ่งปีแรก และมีการแจ้งปรับราคาเมื่อใกล้ถึงวันงาน เฉกเช่นงานในระดับอินเตอร์เนชั่นแนลที่หลายประเทศจัดกัน

ข้าพเจ้ามาวิ่งงานนี้เพราะต้องการซ้อมยาวระยะ เกิน 20 กม ขึ้นไป แต่ทว่า ช่วงที่คิดได้ ก็เลยระยะเวลาสมัครในราคาปกติไปแล้ว  ถ้าจะสมัครก็ต้องใข้สตางค์ 600 บาทมาสมัคร จึงเกิดอาการเสียดายเงินขึ้นมา และจากงานที่เคยสัมผัสกับการจัดงานของเจ้านี้ในครั้งก่อน ยังทำให้รู้สึกแหยง และกลัว การแถมและการขาด ของคนจัดงานนี้อีกครั้ง

จึงตัดสินใจว่าครั้งนี้จะยอมเป็นคนหน้าด้านวิ่งไม่ติดเบอร์ พร้อมถือน้ำมากินเอง แต่แล้วฟ้าก็ดลบันดาล เมื่อเพื่อนสามารถหาเบอร์มาให้วิ่งได้ในระยะ 10 กม. ซึ่งทำให้ตัดปัญหาการต้องเตรียมน้ำมากินเองออกไป

เมื่อมาถึงบริเวณงาน ไม่น่าเชื่อว่าสถานที่จอดรถเต็มครับ จากปกติที่เคยจอดข้างสวนพระราม 8 ต้องระเห็จไปจอดที่หน้าวัด ที่ยังมีพื้นที่ว่างให้จอดรถอยู่อีกหลายคัน  ซึ่งเมื่อจัดแจงพันผ้าที่บริเวณจุดที่เจ็บเรียบร้อยแล้วจึงเร่งเดินทางเข้าสู่บริเวณจัดงาน เพื่อไปวอร์มร่างกายให้พร้อมก่อนการวิ่ง

หลังจากได้รับเบอร์วิ่งมา เป็นเบอร์วิ่งระยะ 10 กม. ก็ดำเนินการนำเสนอ ที่เสื้อของตัวเอง ซึ่งมารู้อีกที ว่าเบอร์เป็นของสุภาพสตรี ก็รู้สึกเขินนิดนึง เมื่อวิ่งวอร์มเรียบร้อยแล้ว จึงมาดำเนินการยืดเหยียด จึงได้พบกับพี่กบ แล้วรู้ว่าวันนี้จะวิ่งฮาล์ฟ แต่ซื้อเบอร์มินิมา มีเพื่อนแล้ว จึงอาศัยเกาะพี่เค้าไปในช่วงปล่อยตัว และทิ้งพี่เค้าเมื่อวิ่งไปได้สักพัก คำว่าทิ้ง หมายความว่าปล่อยพี่เค้าวิ่งไป เพราะเค้าเร็วจริงๆ

งานนี้มาวิ่ง จริงๆ แล้วต้องการมาเซอร์เวย์ ว่ามีพัฒนาการจากครั้งก่อนหรือไม่ ซึ่งคงหาคำตอบได้จากข้อมูลด้านล่างนี้ต่อไป


เวลา 5.15 เป็นเวลาปล่อยตัว ซึ่งวันนี้ข้าพเจ้าหลบเป็นนินจาอยู่ตอนฮาล์ฟ กำลังปล่อยตัว จึงรีบวิ่งตามออกไป มีเจ้าหน้าที่จะพยายามเช็ค แต่ข้าพเจ้าก็รีบจ้ำอ้าวออกไป ทางออกค่อนข้างเสียเวลามาก กับการต้องมาออ ที่ประตูทางเข้าสวนที่เปิดให้วิ่งออกฝั่งเดี่ยว

จากนั้นก็วิ่งออกมาเป็นทางใต้สะพานพระราม 8 ปีนี้แตกต่างกันคือเมื่อปีก่อนจะวิ่งตรงไปเรื่อยๆ และไปขึ้นตรงทางขึ้นอีกทาง แต่มาปีนี้ เป็นการวิ่งย้อนทางลง ซึ่งเมื่อปีก่อน เส้นทางนี้เป็นทางลงก่อนเข้าเส้น

ใจคิดว่าสงสัยจะคำนวณเส้นทางใหม่มาแล้ว จึงกำหนดเส้นทางวิ่งแบบนี้ เพื่อไม่ให้เกิดอาการวิ่งใส่หมด แต่ต้องมาเจอทางย้อนไปย้อนมา

หลังจากวิ่งขึ้นมาบนสะพานเรียบร้อยแล้ว เมื่อผ่านป้าย บอกระยะทางที่ กม ที่ 1 ก็รู้สึกเริ่มสังหรณ์ใจแล้วว่าวันนี้เส้นทางไม่ธรรมดาแน่ เพราะ ป้ายที่บอก กับระยะทางจริงนั้นไม่ได้ตรงกันเลย  ระยะทางจริงตรงนั้นอยู่ที่ประมาณ 1.6 กม   เหมือนกับว่าผู้จัดมาเปลี่ยนเส้นทางวิ่งเอาตอนก่อนจะปล่อยตัวหรือไม่ อันนี้ผมไม่รู้ เพราะไม่ได้เช็คเส้นทางวิ่งมาก่อน

หลังจากผ่านป้ายบอกทางแรก ประมาณ 500 เมตร ก็เจอจุดให้น้ำจุดแรก จึงวิ่งเข้าพิท เพื่อเติมน้ำเข้าสู่ร่างกายตามปกติ  งานนี้เท่าที่เช็คจำนวนคนวิ่งระยะฮาล์ฟ น่าจะมีประมาณเกือบ 800 ท่าน ซึ่งถือว่าสูงมาก งานในวันนี้ ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มวัยรุ่น มีแต่คนหนุ่มสาว มาวิ่งกันมากมาย ทำให้วิ่งไป เพลิดเพลินไปอีกแบบหนึ่ง

ป้าย กม ที่ 2 ป้ายบอกทางก็ยังเพี้ยนกับระยะทางจริงอยู่   จริงอยู่เทคโนโลยี เดี่ยวนี้พัฒนาไปไกล ราคาไม่แพงเหมือนแต่ก่อน นักวิ่งสามารถหามาใช้เพื่อควบคุมจังหวะตัวเองในการวิ่งให้ได้ตามแผน แต่การที่ป้ายบอกระยะทางที่ผิดเพี้ยนไป กับนักวิ่งที่ไม่มีอุปกรณ์ดังกล่าวนั้น  สามารถทำลายจังหวะการวิ่งของนักวิ่งเหล่านั้นได้ทันที  เมื่อไหร่ การจัดงานในบ้านเราทุกออแกไนซ์ถึงจะมีมาตรฐานดีขึ้นก็ไม่รู้

มาถึงช่วงนี้ สามารถวิ่งไล่ แจงกับแมน ที่วันนี้วิ่งมาด้วยกันได้ และพยายามแซงหนีออกไปด้วยจังหวะวิ่งเดิม เดิมทีวันนี้ตั้งใจมาวิ่งจ็อก ที่ pace 5:30 ต่อ กม. ซึ่งระหว่างทางวิ่ง ก็มีกำไรบ้าง ขาดทุนบ้าง

วิ่งได้สักพักนึง ก็เจอหมอเจษ ได้คุยกันระหว่างวิ่งสักพัก ถึงงานกล้วยเมื่ออาทิตย์ก่อน จึงแยกย้ายกันคนละทางเพราะวิ่งคนละจังหวะกัน

สำหรับจุดให้น้ำวันนี้รู้สึกจุดให้จะวางมั่วไปหมด ไม่มีมาตรฐานเลยว่าจะวางที่ กม ที่เท่าไหร่ กันแน่ ยิ่งวิ่งยิ่งสับสน กะเกณฑ์จังหวะการกินน้ำไม่ถูก   เมื่อวิ่งมาถึงจุดกลับตัว ก็มีรถสุขามารอให้บริการ  ณ จุดกลับตัว ระยะอยู่ที่ประมาณ 10.7  ก็เลยคิดว่าถ้ากลับทางเดิม ระยะทางน่าจะโอเคได้มาตรฐานการจัดงานสมชื่องาน อินเตอร์

วิ่งกลับตัวมาได้สักพัก ก็รู้สึกเริ่มตึงๆ ขา ขึ้นมา เป็นจุดเดิม ใต้ฝ่าเท้าที่ยังเจ็บอยู่ จึงเริ่มวิ่งเบาลง เพื่อลองเช็คอาการ ในระหว่างทางเมื่อวิ่งย้อนกลับ ก็ได้ทักทายเพื่อนๆ ไปหลายท่าน การวิ่งกลับตัวแบบเห็นตัวกันนี่มันทำให้รู้สึกสนุกกว่าวิ่งไปทางเดียวมากมาย  แต่แปลกทำไม ก่อนเราจะกลับตัว ทำไมไม่เห็นบอย สงสัยจะมึนมากวันนี้

วิ่งชิว ได้อยู่แค่ 6 กม. ระหว่างดื่มด่ำ กับของสวยงามระหว่างทาง กับการเก็บภาพบรรยากาศของนักวิ่งต่างๆ ที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มแต่ยังไม่จุใจ ก็กลับต้องมาเหนื่อยอีกครั้ง เมื่อน้องแจง สลัด แมน ตอนไหนก็ไม่รู้วิ่งตุปัดตุเป่ แซงหน้าขึ้นไปเฉยเลย  ด้วยเป็นชายอกสามศอก ใยจะให้สาวสาว แซงได้อย่างไร จึงเริ่งสปีดตามแบบเคาะไปเรื่อยๆ ซึ่งตอนนั้นยังไม่ได้เฉลียวใจ วิ่งดร๊าฟ ตามไปได้สักพักเอ๊ะใจ จากเสี่ยงนาฬิกาที่ดังขึ้นเมื่อบอกว่าวิ่งครบ lap แล้ว ชะโงกหน้าลงไปดูที่หน้าปัดนาฬิกา ถึงกับร้องในใจออกมา

"อัยย่ะ"   4:57  เห็นน้องวิ่งชิวๆ ไหงเร็วแบบนี้ จึงผ่อนความเร็วลง กะปล่อยแล้ว ถ้าแรงแบบนี้ พี่คงอ๊วกก่อนที่จะถึงจุดหมายแน่  เหมือนฟ้าบันดาลเพราะถึงจุดให้น้ำพอดี แจงชะลอ และหยุดเพื่อรับน้ำ จังหวะนี้ ข้าพเจ้าอาศัยการโฉบน้ำ ทั้งกิน ทั้งอาบ และชิงฉีกหนีออกไปอีกครั้ง  หนีไปได้ไม่นาน คุณเธอก็มาอีกแล้ว แซงไปอีกแล้ว ซึ่งหลังจากผลัดกันนำ ผลัดกันแซงได้สักพักซึ่งข้าพเจ้าในคราวนี้ คิดว่าจะปล่อยแล้ว เพราะคิดว่าร่างกายคงแข็งแรงสู้น้องเค้าไม่ได้ในคราวนี้ จึงได้แค่วิ่งประคองไปเรื่อยๆ  แต่ก็ยังเร็วกว่าช่วง10 กิโลแรกที่วิ่ง จนเมื่อสายตากวาดเส้นทางยาวไป เห็นแจงวิ่งไป และเหลือบไปเห็นบอย ที่วันนี้ ใส่เสื้อสีชมพู ของ รพ.นครธน มาวิ่ง ซึ่งเป็นเสื้อตัวเดียวกับวันนี้ที่ข้าพเจ้าหยิบขึ้นมาใส่วิ่ง

เผลอแป๊ปเดียว น้องแจงวิ่งแรงขึ้นไปและแซงบอยได้  ใจก็เลยคิดว่า ถ้าแจงแซงได้ ข้าพเจ้าก็คงแซงได้ จึงเริ่มเร่งฝีเท้าขึ้นหลังผ่านป้าย กม ที่ 19 อัดไป แต่ยังไม่เต็มสตรีม เพราะวันนี้ ยังไม่รู้ว่าคนจัดงานจะมาไม้ไหน  เพราะงานที่เจ้านี้จัดนอกสถานที่ มักจะแถมอยู่รำไป

เมื่อครบ กม ที่ 20  นาฬิกาบอกเวลา ว่า กม ที่ผ่านมา วิ่งไป  4:49   ซึ่งสามารถไล่มาทันบอย ที่ จุดนี้  เหมือนว่าขาจะลอยแล้ว จึงพยายามเร่งต่อไป โดยที่มีความหวังที่จะทำลายสถิติ Half ตัวเอง ที่ Freeze มานาน แต่ก็งงกับจุดที่ขึ้นปีก่อน ที่คิดว่าจะเป็นจุดให้ลงในปีนี้ ถูกรถตู้บังทางไว้  เลยคิดว่าสงสัยจะลงทางเดิมที่ขึ้นมาแน่ๆ แต่ก็ยังไม่วายระแวง จึงไม่กล้าปล่อยหมด ประคองจนมาทันน้องแจงอีกครั้ง จะพยายามวิ่งขึ้นไปตีคู่ แต่เหมือนน้องจะไม่ยอม ฉีกหนีไปอีกครั้ง

อัยหย่า  ถึงจุดกลับตัวแล้วทำไม เค้ายังวิ่งกันต่อไปอีก  นัยว่าจะให้ไปวิ่งถ่ายรูปที่สะพาน พระราม 8 ยังไงยังงั้น   จะกลับตัวตรงไหน สมองตั้งคำถามขึ้นมา กลางสะพานหรือป่าว หรือว่าตีนสะพาน ไม่สามารถคาดเดาได้ เพราะข้าพเจ้าไม่สามารถมองทะลุสะพานที่ทึบได้

สีหน้าแต่ละคนที่วิ่งสวนทางมา ส่วนใหญ่เหยเก  ปากบ่นพรึมพำ อะไรก็ไม่รู้  ในที่สุดก็เจอจุดกลับตัวจนได้ เมื่อวิ่งไปเกือบสุดสะพาน  นาฬิการ้อง ที่จุดนี้ 21 กม.   ท่าทางงานนี้จะแถมไม่ใช่น้อย ใจก็คิด แม่งเอาอีกแล้ว  แก้วน้ำก็ขาดในบางจุด    จนเห็นนักวิ่งที่เก็บอาการไม่ไหวต้องไปเก็บถ้วยเก่ามาเติมน้ำกิน


ไม่เข้าใจว่าเรื่องน้ำสำคัญมาก แต่น้ำในจุดที่ร่วมกันทุกระยะที่ต้องมีปริมาณมากๆ กลับขาดอีกครั้ง แต่คราวนี้ดันขาดแก้ว   สงสัยต่อไปต้องรณรงค์ แก้วเดียว เที่ยวทั่วไทย ให้กับนักวิ่ง เหมือนงานกล้วยซะแล้ว   ณ จุดนี้ สามารถเร่งทันคุณน๊อต ที่วันนี้ปล่อยตัวแรงมาก จนมาทันได้ ทราบความตอนหลังจึงรู้ว่าหมดแรงเพราะท้องเสียเมื่อคืน



กลับมาที่เส้นทางวิ่งย้อนข้ามสะพานพระราม 8 กลับเข้าสู่จุดหมาย โดยย้อนเส้นทางขาขึ้น การแข่งขันก็เริ่มเกิดขึ้นอีกครั้ง เพราะคราวนี้เส้นทางคงไม่เพี้ยนไปกว่านี้แล้ว เมื่อรู้ว่าบอยอยู่ห่างพอสมควร จึงวิ่งผ่อนๆ มาเพราะระยะวันนี้ครบ Half Marathon Record ไปแล้ว  ตากลับไปเหลียวเห็นน้องแจงอีกครั้ง ที่ตีนสะพานจุดวกกลับเข้าเส้นชัย จึงเริ่มเร่งอีกครั้ง เพื่อไล่ให้ทันกับเป้าหมายใหม่ในวันนี้ ซึ่งกว่าจะไล่ทัน และฮึดเฮือกสุดท้ายปาดหน้าเข้าเส้นชัยก่อนหวุดหวิด ที่ประตูทางเข้าสวนพระราม 8  เป็นการปาดหน้าเข้าเส้นที่สะใจสุดๆ  ชนะผู้หญิงแล้วโว้ยยยยยยยย

ขอบคุณน้องแจง ที่มาวิ่งกระตุ้นให้แรงไม่ตกตอนท้ายด้วยวันนี้

ระยะจริง 22.27
ไช้   ใช้เวลา  2:01:14
บอย  ใช้เวลา  2:04:XX

ไช้ 16  บอย 25   ก็ต้องตามกันต่อไป

เมื่อเข้าเส้นเรียบร้อย ก็ต้องไปผจญ กับมวลมนุษยชาติที่ต่อแถวรับสปอนเซอร์ รับอาหารกันอีกขนานใหญ่   คนเยอะขนาดนี้ ดันแจกน้ำจุดเดียว ทำไปได้

สุดท้าย ได้ กระเพาะปลามา 2 ถ้วย  สปอนเซอร์ 1 กระป๋อง และมายืนดูเค้ารับรางวัล  ซึ่งวันนี้ รพ.นครธน ได้มา 1 ถ้วย ด้วยเยี่ยมจริงๆ  และพอได้ยินเค้าแจกรางวัลที่เป็นเงินให้กับผู้ชนะ จึงรู้ล่ะว่าทำไม ต้องเก็บค่าสมัคร ฮาล์ฟ 600   ใช่ไม๊ครับพี่บุญโอ  เป็นครั้งแรกของผมที่วิ่งแล้วไม่มีผลชิพ  เพราะว่าชิพหายยยยย ตั้งแต่ยังไม่เริ่ม คริคริ

วันนี้ต้องขออภัยผู้จัดด้วยครับที่เอาเบอร์มินิ มาวิ่งฮาล์ฟ และขออภัยที่ต้องตำหนิกันตรงๆ อีกครั้ง


5 ความคิดเห็น: