Race 80 120 ปี สมเด็จพระราชบิดา ศาลพันท้าย
วันนี้ได้รับการอนุเคราะห์จากพี่นิพนธ์อีกแล้วครับ งานฟรี มาบ่อยครับช่วงนี้ เลยขนไปทั้งบ้าน เพราะมันไม่มีค่าใช้จ่าย พูดถึงเรื่องค่าใช้จ่ายในงานวิ่งแต่ละครั้ง เมื่อมานั่งคิดคำนวณเล่น ๆ ก็มากโขอยู่เหมือนกัน ไม่ว่าจะค่าสมัครวิ่ง 250 300 400 500 ไปจนถึง 800 บาทต่อคน ถ้าไป กัน 4 คน อาทิตย์นึง ๆ ก็หลายพันเหมือนกัน นี่ยังไม่รวมค่าทางด่วน ค่าน้ำมันรถ เลยนะรับ
แต่เมื่อมาคิดคำนวณ กับ เิิงินจำนวนนี้ต้องจ่ายไปกับ การเลือกอยู่เฉยๆ ไม่ออกกำลังกายอะไรเลย เจ็บป่วยที เข้าโรงพยาบาลที นี่ก็เสียเงินหลักหมื่นเลย ดังนั้น ก็คงต้องดำเนินชีวิตแบบนี้ต่อไป
กลับมาที่งานวิ่ง วันนี้ผู้คนมาร่วมงานกันอย่างคับขั่ง ซึ่งอาจจะเป็นผลงานของ งานวิ่งมหากาพย์โต๊ะจีนของพี่นิพนธ์ ในครั้งก่อน
มีการสั่งจอง เบอร์วิ่งล่วงหน้า กันเข้ามามากมาย แต่เหตุการณ์ความเห็นแก่ตัว จากงานโอลิมปิค ก็ตามมาหลอกหลอนที่นี่อีก มีหลายชมรม สั่งจองเบอร์ล่วงหน้าเข้ามา เป็นหลักสิบ หลักร้อย และ ก็เข้ามารับเสื้อและเบอร์เรียบร้อยกัน ในคืนวันเสาร์ก่อนงาน เหมือนปกติไม่มีอะไรเกิดขึ้น
แต่เช้าวันอาทิตย์หลายคน กลับมีความสามารถพิเศษ สามารถได้รับถ้วยจากรางวัลชนะเลิศบ้าง รองชนะเลิศบ้าง จากงานวิ่งอีกที่
สำหรับการวิ่งในครั้งนี้ คงไม่มีอะไรพิเศษ ไปกว่า การวิ่งโดยข่มจิตตน ใน Pace ที่ต้องการใช้วิ่งในครั้งหน้า ซึ่งหากเราไม่หา Partner ที่มีระดับฝีเท้าด้อยกว่า ก็จะทำให้วิธีการนี้ใช้ไม่ได้ เพราะถ้าวิ่งกับคนที่เร็วกว่าเรา ความเร็วมันก็จะเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ
แต่ถ้าเราหาคนวิ่งช้ากว่าเรา และเราระงับจิตตัวเองได้ ก็จะกลายเป็นการวิ่งที่เราสามารถควบคุมจังหวะการวิ่งได้ อีกทั้งยังจะทำให้ Partner เราวิ่งดีขึ้นด้วย
ซึ่งคงไม่มีใครที่จะเหมาะกับตำแหน่งนี้ เท่าน้องชายตัวเอง วันนี้จึงถอยตัวเองไปอยู่แถวสุดท้ายคนสุดท้ายในการปล่อยตัว เพื่อไม่ให้วิ่งจังหวะคล้อยตามคนอื่น
นอกจากการวิ่งแบบข่มจิตแล้ว อีกสาเหตุหนึ่งที่ต้องวิ่งช้าก็เป็นเพราะเมื่อวานวันเสาร์ เพิ่งลงคอรท์ 400 จ็อค 200 มา 20 เที่ยว วิ่งเสร็จ ยกขาแทบไม่ขึ้น เพราะเป็นการซ้อมท่ามกลางแดด และสักขีพยานมากมาย
การวิ่งในวันนี้ ในช่วงแรกเป็นไปอย่างช้ามาก อาจเป็นเพราะวันนี้ไม่มีแรงฮึดที่จะวิ่งวอร์มก่อนแข่งจริง 20 นาทีอย่างปกติที่ทำ สามารถวอร์มได้ แค่ไม่ถึง 5 นาที เพราะวุ่นวายเรื่องแจกเสื้อแจกเบอร์กันอยู่
การวิ่งช้า ก็ดีเหมือนกัน ทำให้เราได้เห็นมุมมองอะไรที่แตกต่างจากการตะบันวิ่งเร็ว โดยไม่เห็นอะไรรอบข้างทางการวิ่ง พ่อแม่ลูก ร่วมกันวิ่ง คู่สามีภรรยา ช่วยกันประคองการวิ่ง การวิ่งแบบอัดของเด็กๆ ที่วิ่งได้สั้นๆ ก็หมดแรงต้องเดิน เป็นภาพที่แตกต่างจากที่ปกติที่ข้าพเจ้าได้เคยพบเห็น
สาวๆ น่ารัก ก็มักจะอยู่ท้ายแถวด้วย บันเทิงตาจริงๆ
ระหว่างทางก็มีคึกคักบ้างหลังจากเครื่องเริ่มร้อน เมื่อผ่านไปได้ 5 กม ก็ลองชวนจ็อคเร็วกัน ซึ่งน้องข้าพเจ้าเครื่องเริ่มติดตาม จนต้องปรามกันให้ลดสปีดลง ไม่งั้นเป้าหมายที่วางไว้ ก็จะไม่เกิดประโยชน์อะไรขึ้นเลย แถมหนำซ้ำยังเสี่ยงที่จะเกิดอาการบาดเจ็บด้วย เพราะสนามนี้ คือ สนามเงา ของ งานพันท้ายนรสิงห์ ที่เส้นทางเป็นคอนกรีตตลอดทาง นี่ก็เป็นอีกสาเหตุที่ต้องวิ่งแบบนี้
เมื่อวิ่งจบ งานนี้ตัวเบาหวิวเลย เมื่อกับว่า เมื่อวานวิ่งหนักมา วันนี้มาวิ่งคลาย เลยทำให้กล้ามเนื้อที่ตึงเมื่อวานเหมือนถูกปลดแอกในวันนี้เลยทีเดียว
ระยะ 10.42 กม ใช้เวลา 1:07:26
ไช้
8 มกราคม 2012
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น